ทำเนียบขาวออกแถลงเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดี (12 มิ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมเข้าร่วมการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติในเช้าวันศุกร์นี้ (13 มิ.ย.) 11.00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หลังจากอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายสำคัญในอิหร่าน ซึ่งจุดชนวนความวิตกไปทั่วตะวันออกกลาง
รายงานระบุว่า อิสราเอลเปิดปฏิบัติการโจมตีอิหร่านในชื่อ "สิงโตผงาด" (Operation Rising Lion) ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นของภูมิภาค โดยมุ่งเป้าไปยังโครงการนิวเคลียร์ ฐานยิงขีปนาวุธ และผู้บัญชาการทหารระดับสูงของอิหร่าน พร้อมยืนยันว่าปฏิบัติการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนป้องกันระยะยาวเพื่อขัดขวางการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ไม่นานหลังจากเกิดเหตุ ฝั่งสหรัฐฯ ออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการครั้งนี้ โดยมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศยืนยันสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีอิหร่าน พร้อมย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการปกป้องความปลอดภัยของทหารอเมริกันในภูมิภาค
ด้านแดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการตัดสินใจของรัฐบาลอิสราเอลแต่เพียงฝ่ายเดียว แม้จะมีการหารือกับสหรัฐฯ อยู่เป็นระยะ พร้อมหลีกเลี่ยงที่จะตอบว่า หากอิหร่านตอบโต้ สหรัฐฯ จะให้ความช่วยเหลือหรือไม่
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่และครอบครัวที่อยู่ในสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยรูซาเลมหลบอยู่ในที่พักจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง พร้อมเตือนว่าสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่อาจคาดเดาได้
ขณะเดียวกัน กองทัพสหรัฐฯ กำลังเตรียมแผนรับมือสถานการณ์ในตะวันออกกลาง รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะต้องอพยพพลเรือนชาวอเมริกัน หากความตึงเครียดลุกลามบานปลาย
ทั้งนี้ สหรัฐฯ และอิหร่านเดิมมีกำหนดเปิดการเจรจารอบที่ 6 เกี่ยวกับโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่ประเทศโอมานในวันอาทิตย์นี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่าการเจรจาจะดำเนินต่อไปได้หรือไม่ หลังเกิดเหตุโจมตีล่าสุด