เกิดเสียงระเบิดในกรุงเยรูซาเลมและเทลอาวีฟ เมื่ออิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้เข้าใส่อิสราเอลในคืนวันศุกร์ (13 มิ.ย.) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากอิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดต่ออิหร่านในรอบหลายปี
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้เข้าร่วมช่วยสกัดขีปนาวุธของอิหร่านที่ยิงเข้าใส่อิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลรายงานว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธน้อยกว่า 100 ลูก และส่วนใหญ่ถูกสกัดไว้ได้ หรือพลาดเป้า
ในเวลาเดียวกัน อิสราเอลเปิดไซเรนเตือนภัยทั่วประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนหลบภัย เมื่อมีการพบเห็นขีปนาวุธหลายลูกพุ่งผ่านท้องฟ้าเหนือเมืองเทลอาวีฟ โดยการโจมตีทำให้อาคารที่พักอาศัยในเมืองรามัต กาน ใกล้เทลอาวีฟ รวมถึงอีกอาคารในใจกลางกรุงเทลอาวีฟ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ด้านสำนักข่าว IRNA ของอิหร่านรายงานว่า อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลหลายร้อยลูกใส่อิสราเอล เพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลโจมตีศูนย์นิวเคลียร์ใต้ดินขนาดใหญ่ในเมืองนาทานซ์ และสังหารผู้บัญชาการทหารระดับสูงของอิหร่าน ทั้งนี้ อิหร่านยังยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีเป้าหมายเพื่อสันติเท่านั้น
สถานีโทรทัศน์ช่อง 12 ของอิสราเอลรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย บาดเจ็บปานกลาง 8 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 34 รายจากสะเก็ดระเบิดที่เกิดจากการโจมตีของอิหร่านในครั้งนี้
เหตุการณ์ตอบโต้กันระหว่างอิสราเอลและอิหร่านในรอบวัน ทำให้หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งในระดับภูมิภาคที่ลุกลาม แม้กลุ่มพันธมิตรของอิหร่านอย่างฮามาสในฉนวนกาซาและฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนได้ถูกโจมตีอย่างหนักจากอิสราเอลจนแทบไม่เหลือกำลังแล้วก็ตาม