ผู้นำญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ได้สนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์ (13 มิ.ย.) โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญคือการโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่าน ซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงค่ำวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐฯ และตรงกับช่วงเช้าวันศุกร์ในตะวันออกกลางและเอเชีย ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะรักษาการติดต่ออย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อรับมือกับความตึงเครียดที่เกิดขึ้น
ในเวลาเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ได้แสดงจุดยืนของญี่ปุ่นต่อประเด็นภาษี โดยย้ำว่า ท่าทีของญี่ปุ่นนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของการหารือกับสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา และยังเห็นพ้องกับผู้นำสหรัฐฯ ว่า ควรเร่งเจรจาระหว่างรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันข้อตกลงที่เกิดประโยชน์ร่วมกัน
การเจรจาทางโทรศัพท์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ และญี่ปุ่นยังมีความเห็นต่างเกี่ยวกับมาตรการภาษี โดยเฉพาะการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้การขู่เก็บภาษีเป็นกลยุทธ์ทางการค้า โดยญี่ปุ่นมองว่า ไม่ควรมีการทำข้อตกลงแบบบางส่วน และเรียกร้องให้มีการทบทวนมาตรการอย่างครอบคลุม
ญี่ปุ่นยังประณามการโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่านโดยมองว่าเป็นการยกระดับสถานการณ์ให้ตึงเครียดมากขึ้น ขณะที่สหรัฐฯ กลับระบุว่าเป็นการกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียว และยืนยันว่า สหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์นี้
ด้านเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวก็ได้ออกมายืนยันว่าการหารือระหว่างทรัมป์กับอิชิบะเกิดขึ้นจริงเมื่อวันศุกร์ และระบุว่า ผู้นำทั้งสองยังเห็นพ้องในความสำคัญของการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ สองผู้นำมีกำหนดจะพบกันนอกรอบการประชุมกลุ่มประเทศ G7 ที่แคนาดาในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ประเด็นภาษีและตะวันออกกลางจะถูกหยิบยกขึ้นมาหารือเพิ่มเติม