นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ออสเตรเลียจะเริ่มต้นการเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) เพื่อจัดตั้งความเป็นหุ้นส่วนในด้านความมั่นคงและการป้องกัน โดยการหารือเบื้องต้นเกิดขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอด G7 ที่เมืองคานานาสคิส ประเทศแคนาดา ซึ่งอัลบาเนซีได้พบปะกับผู้นำระดับสูงของ EU ได้แก่ เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และอันโตนิโอ คอสตา ประธานสภายุโรป
อัลบาเนซีระบุว่า ความร่วมมือในรูปแบบใหม่นี้จะครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมด้านการป้องกันประเทศ ความมั่นคงทางไซเบอร์ และการต่อต้านการก่อการร้าย โดยถือเป็นกรอบสำคัญที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างออสเตรเลียกับยุโรป ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
การเจรจาจะดำเนินการโดยรัฐมนตรีจากทั้งสองฝ่ายภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแสดงความเชื่อมั่นว่า การหารือจะคืบหน้าอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงในเวลาไม่นาน
ทั้งนี้ สหภาพยุโรปเคยลงนามความร่วมมือด้านความมั่นคงลักษณะเดียวกันกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ EU เน้นย้ำว่า ความร่วมมือเหล่านี้ไม่ใช่การเป็นพันธมิตรทางทหาร
นอกจากด้านความมั่นคงแล้ว ออสเตรเลียยังมุ่งหวังที่จะได้ข้อสรุปในข้อตกลงการค้าเสรีกับ EU ซึ่งเพิ่งกลับมาเปิดการเจรจากันใหม่ไม่นาน โดยอัลบาเนซีระบุว่า การมีข้อตกลงในช่วงเวลานี้จะมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะไม่แน่นอน
เขาเปิดเผยด้วยว่า ในการเจรจาขณะนี้ ประเด็นที่ยังตกลงกันไม่ได้เหลือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะข้อเรียกร้องให้อียูเปิดตลาดนำเข้าเนื้อวัวและเนื้อแกะจากออสเตรเลียมากขึ้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่ออสเตรเลียให้ความสำคัญ