อาเหม็ด อัลชารา ประธานาธิบดีเฉพาะกาลของซีเรีย กล่าวในวันนี้ (17 ก.ค.) ว่า การปกป้องพลเมืองชาวดรูซ (Druze) และสิทธิของพวกเขาคือ "ภารกิจสำคัญอันดับแรกของเรา" หลังจากที่อิสราเอลประกาศกร้าวว่าจะทำลายกองกำลังของรัฐบาลซีเรียที่เข้าโจมตีชาวดรูซทางภาคใต้ของซีเรีย
ในการแถลงผ่านโทรทัศน์ครั้งแรกหลังถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศอย่างหนักในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ปธน.อัลชาราได้กล่าวกับพลเมืองชาวดรูซโดยตรงว่า "เราขอปฏิเสธความพยายามใด ๆ ที่จะลากพวกท่านไปอยู่ในมือของบุคคลภายนอก" และเสริมว่า "เราใช้ชีวิตเผชิญหน้ากับความท้าทายและปกป้องประชาชนของเรามาตลอด แต่เราให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาวซีเรียเหนือความโกลาหลและการทำลายล้าง"
การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลได้ทำลายส่วนหนึ่งของกระทรวงกลาโหมซีเรีย และมีการโจมตีใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งถือเป็นการยกระดับการเผชิญหน้าระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย แม้ว่าก่อนหน้านี้ปธน.อัลชาราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับสหรัฐฯ และมีการติดต่อด้านความมั่นคงกับอิสราเอลก็ตาม
อิสราเอลระบุว่า รัฐบาลใหม่ของซีเรียเป็นพวกญิฮาดที่แฝงตัวมา และประกาศว่าจะไม่อนุญาตให้เคลื่อนกำลังพลเข้ามาในภาคใต้ของซีเรีย พร้อมให้คำมั่นว่าจะปกป้องชุมชนชาวดรูซในซีเรีย ตามเสียงเรียกร้องของชาวดรูซส่วนที่อยู่ในดินแดนอิสราเอล
"เราจะไม่อนุญาตให้ซีเรียตอนใต้กลายเป็นฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้าย" เอยัล ซามีร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิสราเอลกล่าว
อนึ่ง ชาวดรูซเป็นกลุ่มผู้นับถือศาสนาที่แตกแขนงมาจากศาสนาอิสลาม และกระจายตัวอาศัยอยู่ในซีเรีย เลบานอน และอิสราเอล
จากเสียงเรียกร้องในอิสราเอลให้เข้าช่วยเหลือ ส่งผลให้เมื่อวันพุธ ชาวดรูซในอิสราเอลหลายสิบคนได้พังรั้วชายแดนข้ามไปยังซีเรีย โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้เรียกร้องให้พวกเขาอย่าข้ามพรมแดน
เครือข่ายสิทธิมนุษยชนซีเรียระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 169 รายจากเหตุรุนแรงในสัปดาห์นี้ ขณะที่แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงให้ตัวเลขสูงถึง 300 ราย
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ ได้ "ตกลงในขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมซึ่งจะนำสถานการณ์ที่น่ากังวลและน่าสะพรึงกลัวนี้ไปสู่จุดสิ้นสุดในคืนนี้" ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะมีการประชุมในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับความขัดแย้งดังกล่าว
ทั้งนี้ ปธน.อัลชารากำลังเผชิญกับความท้าทายในการรวมชาติซีเรียให้เป็นหนึ่งอีกครั้ง ท่ามกลางความหวาดระแวงอย่างหนักจากกลุ่มต่าง ๆ ที่เกรงกลัวการปกครองแบบอิสลามิสต์ ซึ่งสถานการณ์เลวร้ายลงจากการสังหารหมู่ชนกลุ่มน้อยชาวอะละวี (Alawite) เมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา