กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กำลังทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ไปยังภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เพื่อสกัดภัยคุกคามจากจีน ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คิงส์ลีย์ วิลสัน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) ว่า กำลังทำทุกวิถีทางอย่างเต็มที่เพื่อปรับทิศทางของกระทรวงฯ ไปยังภูมิภาคนี้ และมุ่งมั่นที่จะรับมือกับภัยคุกคามจากจีน พร้อมอ้างถึงคำกล่าวของพีท เฮ็กเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ที่มองภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเป็นพื้นที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นระหว่างงานแถลงข่าวที่ตอบคำถามเกี่ยวกับการฝึกทหารร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ รวมถึงโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
สำหรับสถานการณ์ที่เกาหลีเหนือปฏิเสธการเจรจาเรื่องการลดอาวุธนิวเคลียร์และเดินหน้าพัฒนาอาวุธนั้น วิลสันย้ำถึงความสำคัญของพันธมิตรที่ต้องเพิ่มงบประมาณกลาโหมเพื่อสร้างความมั่นคงในภูมิภาค
วิลสันกล่าวว่า เราได้เห็นพันธมิตรตอบรับและเพิ่มความพยายามอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องที่เรารู้สึกภูมิใจและรู้สึกมีกำลังใจอย่างมาก เพราะอินโด-แปซิฟิกกำลังกลายเป็นพื้นที่อันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ
กระทรวงฯ ยังเน้นย้ำถึงเป้าหมายการใช้จ่ายด้านกลาโหมที่พันธมิตรในเอเชียควรเดินตามมาตรฐานสากล ซึ่งคือการกำหนดงบประมาณด้านกลาโหมประมาณ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ภายในปี 2578 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สมาชิกนาโตตกลงร่วมกัน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีใต้มีงบประมาณด้านกลาโหมปีนี้อยู่ที่ประมาณ 61.2 ล้านล้านวอน (4.42 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือคิดเป็น 2.32% ของ GDP