สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า ศาลได้อนุมัติหมายจับ คิม กอน ฮี ภริยาของอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ในช่วงค่ำวันอังคาร (12 ส.ค.) ส่งผลให้เธอจะถูกนำตัวเข้าเรือนจำทันที หลังเผชิญข้อกล่าวหาคอร์รัปชันหลายกระทง ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธมาโดยตลอด
การจับกุมครั้งนี้จะทำให้ คิม กอน ฮี กลายเป็นอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนแรกในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ที่ถูกคุมขัง และจะต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำตามรอยสามี คืออดีตปธน.ยุน ซอก ยอล ซึ่งกำลังถูกไต่สวนคดี หลังถูกถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อเดือนเม.ย. จากความพยายามประกาศใช้กฎอัยการศึกที่ล้มเหลวเมื่อเดือนธ.ค. ปีก่อน
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน คิม กอน ฮี ในชุดสูทสีดำได้เดินทางมาถึงศาลพร้อมโค้งคำนับ แต่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน ก่อนจะเดินทางไปรอฟังคำตัดสินที่ศูนย์ควบคุมตัวในกรุงโซลตามธรรมเนียมปฏิบัติ
สำหรับข้อกล่าวหาที่คิม กอน ฮี เผชิญ มีตั้งแต่การฉ้อโกงหุ้น การรับสินบน และการใช้อิทธิพลโดยมิชอบ ซึ่งมีโทษจำคุกหลายปี โดยคดีนี้โยงใยไปถึงนักธุรกิจ ผู้นำศาสนา และผู้มีอิทธิพลทางการเมืองหลายราย
หนึ่งในข้อหาสำคัญคือ กรณีที่เธอสวมจี้เพชรหรูยี่ห้อ Van Cleef มูลค่ากว่า 60 ล้านวอน (43,000 ดอลลาร์) ขณะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดนาโต (NATO) กับสามีในปี 2565 โดยจี้ดังกล่าวไม่ได้ถูกแจ้งไว้ในบัญชีแสดงทรัพย์สินตามที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ เธอยังถูกกล่าวหาว่ารับกระเป๋า Chanel 2 ใบ มูลค่ารวม 20 ล้านวอน และสร้อยคอเพชรจากกลุ่มศาสนากลุ่มหนึ่ง เพื่อเป็นสินบนแลกกับการใช้อิทธิพลช่วยเหลือทางธุรกิจ
โฆษกทีมอัยการพิเศษแถลงว่า สาเหตุที่ต้องขอหมายจับเป็นเพราะเกรงว่า คิม กอน ฮี จะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสืบสวน พร้อมเปิดเผยว่า คิม กอน ฮี อ้างกับอัยการว่าจี้เพชรดังกล่าวเป็นของปลอมที่ซื้อจากฮ่องกงเมื่อ 20 ปีก่อน แต่อัยการยืนยันว่าเป็นของจริงที่ได้รับมาจากบริษัทก่อสร้างในประเทศเพื่อให้เธอสวมไปร่วมประชุม
ด้านทีมทนายความของ คิม กอน ฮี ยังไม่ได้ให้ความเห็นล่าสุด แต่ก่อนหน้านี้ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและยืนยันว่ารายงานข่าวเรื่องของขวัญเป็นเพียงเรื่องที่ไม่มีมูล
ขณะเดียวกัน อดีตปธน.ยุน ซอก ยอล กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีข้อหาก่อกบฏ ซึ่งอาจมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต โดยอดีตผู้นำปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ยอมเข้าร่วมการไต่สวนในชั้นศาล