เกาหลีใต้และสหรัฐฯ เปิดม่านการซ้อมรบร่วมประจำปีในวันนี้ (18 ส.ค.) เพื่อร่วมกันส่งเสริมความพร้อมในการป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ แม้การซ้อมรบปีนี้จะมีขนาดใกล้เคียงกับเมื่อปีที่แล้ว แต่แผนซ้อมรบภาคสนามราวครึ่งหนึ่งจากประมาณ 40 แผนจะถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนก.ย. ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นความพยายามเพื่อลดความตึงเครียดและฟื้นความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ
การซ้อมรบประจำปี อุลชิ ฟรีดอม ชีลด์ (UFS) ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 11 วัน จนถึงวันที่ 28 ส.ค. ประกอบด้วยการซ้อมรบที่ครอบคลุมภัยคุกคามเสมือนจริง โดยมุ่งส่งเสริมขีดความสามารถของพันธมิตรในทุกด้าน โดยจะมีการระดมทหารเกาหลีใต้ราว 18,000 นายเข้าร่วมการซ้อมรบปีนี้
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือประณามการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ มานานแล้ว โดยมองว่าเป็นการเตรียมตัวรุกราน และเคยใช้การทดสอบอาวุธเพื่อตอบโต้ด้วย โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเกาหลีเหนือประณามการซ้อมรบครั้งใหญ่ดังกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 10 ส.ค. พร้อมขู่จะใช้สิทธิป้องกันตนเองของประเทศในกรณีที่เกิดการยั่วยุ
การซ้อมรบร่วม UFS จะจัดขึ้นควบคู่ไปกับการฝึกซ้อมป้องกันพลเรือนระยะเวลา 4 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.) โดยจะมีพลเรือนเข้าร่วมประมาณ 580,000 คน ซึ่งรวมถึงความพยายามในการต่อต้านการโจมตีจากโดรนและการโจมตีทางไซเบอร์ ขณะที่การฝึกซ้อมป้องกันพลเรือนจากการโจมตีทางอากาศทั่วประเทศจะเปิดฉากขึ้นในวันพุธ (20 ส.ค.)
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ผู้นำเกาหลีใต้ ได้ให้คำมั่นจะดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อลดความตึงเครียดและฟื้นความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ โดยกล่าวว่า ความเป็นศัตรูที่ยืดเยื้อยาวนานไม่เป็นผลดีต่อประชาชนเกาหลีทั้งสองฝั่ง พร้อมเน้นย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องก้าวข้ามการเผชิญหน้าในสงครามเย็นที่ล้าสมัย และนำพาสันติภาพยุคใหม่มาสู่คาบสมุทรเกาหลี