สหรัฐฯ คว่ำบาตรเพิ่มอีก ปมพัวพันค้าน้ำมันอิหร่าน

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านเพิ่มเติมเมื่อวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.) โดยมุ่งเป้าไปที่นิติบุคคล 13 ราย ซึ่งมีฐานอยู่ในฮ่องกง จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และหมู่เกาะมาร์แชลล์ ตลอดจนเรือสินค้าอีก 8 ลำ

มาตรการที่ประกาศใช้นี้มีผลบังคับครอบคลุมไปถึงอันโตนิออส มาร์การิติส พลเมืองสัญชาติกรีก พร้อมด้วยเครือข่ายบริษัทและกองเรือของเขา ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้สืบทราบว่ามีส่วนพัวพันกับการลักลอบขนส่งน้ำมันส่งออกของอิหร่าน อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตร

นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ ยังได้ประกาศขึ้นบัญชีบริษัท Ares Shipping Limited และบริษัท Hong Kong Hangshun Shipping Limited ในฮ่องกง รวมทั้งบริษัท Comford Management ในหมู่เกาะมาร์แชลล์อีกด้วย

ในส่วนของเรือบรรทุกน้ำมันดิบที่ถูกขึ้นบัญชีนั้น รวมถึงเรือ Adeline G และเรือ Kongm ซึ่งชักธงปานามา และเรือ Lafit ซึ่งชักธงชาติเซาตูเมและปรินซีปี

ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่งระบุว่า กระทรวงฯ คว่ำบาตรผู้ประกอบการท่าเทียบเรือและคลังเก็บน้ำมันในจีนจำนวน 2 แห่ง ด้วยเหตุที่บริษัททั้งสองแห่งนี้ดำเนินการรับน้ำมันนำเข้าจากอิหร่าน โดยใช้เรือบรรทุกน้ำมันซึ่งเคยถูกทางการสหรัฐฯ คว่ำบาตรไว้แต่ก่อนแล้ว

บริษัทที่ถูกระบุชื่อในครั้งนี้ ได้แก่ บริษัท Qingdao Port Haiye Dongjiakou Oil Products Co ในมณฑลซานตง และบริษัท Yangshan Shengang International Petroleum Storage and Transportation Co ในมณฑลเจ้อเจียง

อนึ่ง อิหร่านได้ระงับการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อยับยั้งโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน ภายหลังจากที่สหรัฐฯ และอิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ อิหร่านยังคงยืนกรานปฏิเสธว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะพัฒนาระเบิดปรมาณู

นักการทูตระดับสูงของอิหร่านผู้หนึ่งได้กล่าวเมื่อวันพุธ (20 ส.ค.) ว่า ช่วงเวลาสำหรับการเจรจาประเด็นนิวเคลียร์ที่ "บังเกิดผล" กับสหรัฐฯ นั้นยังมาไม่ถึง พร้อมทั้งกล่าวเสริมว่า อิหร่านจะยังไม่ตัดขาดความร่วมมือกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ของสหประชาชาติ (UN)