อิหร่านเล็งใช้มาตรการตอบโต้ หลังออสเตรเลียขับทูตอิหร่านพ้นประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 27, 2025 10:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านออกโรงประณามการตัดสินใจของออสเตรเลียในการขับไล่เอกอัครราชทูตอิหร่านและเจ้าหน้าที่อีกสามคนออกจากประเทศเมื่อวันอังคาร (26 ส.ค.) โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผลอันสมควร และขัดต่อธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างประเทศ

แถลงการณ์ของกระทรวงฯ ระบุว่า อิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหาของออสเตรเลียที่ระบุว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์โจมตีต่อต้านชาวยิวในออสเตรเลีย พร้อมกับโต้แย้งว่าโลกตะวันตกใช้ประเด็น "การต่อต้านชาวยิว" เพื่อปิดปากประชาชนไม่ให้วิจารณ์สิ่งที่อิสราเอลกระทำต่อชาวปาเลสไตน์

กระทรวงฯ ระบุว่า ออสเตรเลียเดินตามนโยบายของอิสราเอลเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจาก "การกระทำอันโหดร้ายที่ยังคงดำเนินอยู่" ของอิสราเอลในฉนวนกาซา และเพื่อเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค พร้อมทั้งเตือนว่าอิหร่านอาจใช้มาตรการตอบโต้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

อิหร่านเรียกร้องให้ออสเตรเลียทบทวน "การตัดสินใจที่ผิดพลาด" และระบุว่าออสเตรเลียจะต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบใด ๆ ก็ตามที่อาจเกิดขึ้นกับชาวอิหร่านในออสเตรเลีย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แถลงข่าวว่า องค์การข่าวกรองความมั่นคงแห่งออสเตรเลีย (ASIO) มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า อิหร่านเป็นผู้สั่งการโจมตีต่อต้านชาวยิวอย่างน้อยสองครั้งในซิดนีย์และเมลเบิร์นตั้งแต่เดือนต.ค. 2566 พร้อมประกาศขับไล่เอกอัครราชทูตอิหร่านและเจ้าหน้าที่อีกสามคนให้เดินทางออกจากประเทศภายใน 7 วัน ซึ่งถือเป็นการขับไล่นักการทูตต่างชาติครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

นอกจากนี้ นายกฯ อัลบาเนซียังประกาศระงับการดำเนินงานของสถานทูตออสเตรเลียในกรุงเตหะราน โดยนักการทูตทั้งหมดได้เดินทางไปยังประเทศที่สามอย่างปลอดภัยแล้ว พร้อมกันนี้ รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมดำเนินการขึ้นบัญชีกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน ในฐานะองค์กรก่อการร้าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ