สธ.สหรัฐฯ ปลดฟ้าผ่าผอ. CDC หลังนั่งเก้าอี้ไม่ถึงเดือน ขณะ 4 ผู้บริหารลาออกปมวัคซีน

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 28, 2025 10:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (HHS) ของสหรัฐฯ ประกาศปลด ดร.ซูซาน โมนาเรซ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) เมื่อวันพุธ (27 ส.ค.) ทั้งที่เพิ่งรับตำแหน่งได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน ท่ามกลางรอยร้าวลึกเรื่องนโยบายวัคซีน ขณะที่เจ้าตัวประกาศสู้กลับ อ้างถูกปลดเพราะขัดขืน "คำสั่งที่ขัดต่อหลักวิทยาศาสตร์" ซ้ำเติมด้วยเหตุการณ์ผู้บริหารระดับสูงอีก 4 รายพร้อมใจยื่นใบลาออก

ทนายความของดร.โมนาเรซออกแถลงการณ์โต้แย้งคำสั่งปลด โดยระบุว่าลูกความของตนไม่ได้ลาออก และยังไม่ได้รับแจ้งการเลิกจ้างอย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาว พร้อมกล่าวหาว่า โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฯ ปลดผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพออกจากตำแหน่งและพุ่งเป้าเล่นงานเธอ เนื่องจากปฏิเสธที่จะสนับสนุนคำสั่งที่ไร้หลักการทางวิทยาศาสตร์

"ในฐานะบุคคลที่ยึดมั่นในคุณธรรมและอุทิศตนให้แก่วงการวิทยาศาสตร์ เธอจะไม่ลาออก" แถลงการณ์จากทีมทนายความของดร.โมนาเรซระบุ

ขณะเดียวกัน ผู้บริหารระดับสูงของ CDC อีก 4 คนได้ยื่นจดหมายลาออก ประกอบด้วย ดร.เดบรา ฮาวรี ประธานเจ้าหน้าที่การแพทย์, ดร.เดเมเทร ดาสคาลากิส ผู้อำนวยการศูนย์สร้างเสริมภูมิคุ้มกันและโรคทางเดินหายใจแห่งชาติ, ดร.แดเนียล เจอร์นิแกน ผู้อำนวยการศูนย์โรคติดเชื้ออุบัติใหม่และโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนแห่งชาติ และเจน เลย์เดน ผู้อำนวยการสำนักงานข้อมูล การเฝ้าระวัง และเทคโนโลยีสาธารณสุข

ดร.ฮาวรีเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เหตุผลในการลาออกซึ่งระบุไว้ในจดหมาย คือการต่อต้านกระแสข้อมูลเท็จด้านสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเรื่องวัคซีน การโจมตีหลักการทางวิทยาศาสตร์ การใช้สาธารณสุขเป็นเครื่องมือทางการเมือง รวมถึงความพยายามตัดงบประมาณและลดทอนบทบาทของ CDC

"การปั่นกระแสความเสี่ยงเกินจริงและข้อมูลเท็จได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว ดังจะเห็นได้จากตัวเลขผู้ป่วยโรคหัดในสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงสุดในรอบ 30 ปี และการโจมตีหน่วยงานของเราอย่างรุนแรง" ดร.ฮาวรีระบุในจดหมายลาออก

ความขัดแย้งครั้งนี้ปะทุขึ้นท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะตัดงบประมาณของ CDC ในปี 2569 ลงเกือบ 3.6 พันล้านดอลลาร์ ทำให้เหลืองบประมาณเพียง 4 พันล้านดอลลาร์ ประกอบกับแผนปรับโครงสร้างของเคนเนดีที่สั่งปลดพนักงานไปแล้ว 2,400 ตำแหน่งเมื่อต้นปี

"ผมไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้ต่อไปได้อีกแล้ว เพราะการนำประเด็นสาธารณสุขมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง" ดร.ดาสคาลากิสระบุในจดหมายลาออก

ด้านกระทรวงสาธารณสุขฯ ไม่ได้ชี้แจงเหตุผลในการปลดดร.โมนาเรซ และไม่ได้กล่าวถึงการลาออกของผู้บริหารคนอื่น ๆ เพียงแค่โพสต์ข้อความผ่านบัญชีเอ็กซ์อย่างเป็นทางการว่า "ซูซาน โมนาเรซ ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคอีกต่อไป เราขอขอบคุณสำหรับการอุทิศตนรับใช้ชาวอเมริกัน"

ฟิโอนา เฮเวอร์ส อดีตเจ้าหน้าที่ CDC ที่ลาออกไปเมื่อเดือนมิ.ย.จากปัญหานโยบายวัคซีนกล่าวว่า การลาออกระลอกล่าสุดนี้ "สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อ CDC" และเสริมว่า กลุ่มผู้บริหารที่ลาออกไปนั้นทำหน้าที่เปรียบเสมือน "ปราการที่คอยเป็นเกราะป้องกันนักวิทยาศาสตร์ของ CDC จากการโจมตีด้านสาธารณสุขของโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ (RFK Jr.) และรัฐบาลชุดนี้"

นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เคนเนดีได้เปลี่ยนแปลงนโยบายวัคซีนครั้งสำคัญหลายอย่าง เช่น การถอนคำแนะนำให้สตรีมีครรภ์และเด็กสุขภาพดีฉีดวัคซีนโควิด-19 และการปลดคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนของ CDC ทั้งคณะ แล้วแต่งตั้งที่ปรึกษาของตนเองซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหวต่อต้านวัคซีนเข้ามาแทน

ในจดหมายลาออกของดร.ดาสคาลากิสนั้น เขาระบุว่าคำแนะนำด้านวัคซีนของ CDC ในปัจจุบันกำลังทำให้เยาวชนและสตรีมีครรภ์ตกอยู่ในความเสี่ยง และวิจารณ์ว่านโยบายเหล่านี้จะนำอเมริกากลับไปสู่ยุคก่อนมีวัคซีน ที่ซึ่งมีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด อันเป็นการทำลายความมั่นคงของประเทศ

ทั้งนี้ ดร.โมนาเรซ ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลาง เพิ่งได้รับการรับรองจากวุฒิสภาเมื่อวันที่ 29 ก.ค. และเข้าพิธีสาบานตนเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยระหว่างการพิจารณาตำแหน่ง ดร.โมนาเรซเคยให้ความเห็นที่ขัดแย้งกับเคนเนดีว่า เธอไม่เคยเห็นหลักฐานที่เชื่อมโยงวัคซีนกับโรคออทิซึมซึ่งเป็นทฤษฎีที่เคนเนดีให้การสนับสนุนมาโดยตลอด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ