ภาคบริการของฝรั่งเศสส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนในเดือนส.ค. หลังจากกิจกรรมทางธุรกิจหดตัวในอัตราที่ชะลอลงมากจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ
ผลสำรวจโดย S&P Global ที่เผยแพร่ในวันนี้ (3 ก.ย.) ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของฝรั่งเศสจาก HCOB ขยับขึ้นแตะระดับ 49.8 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบหนึ่งปี จากระดับ 48.5 ในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ขณะเดียวกัน ภาคบริการยังมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่สุดในรอบ 15 เดือน ถือเป็นการสิ้นสุดภาวะการลดพนักงานที่ดำเนินมา 8 เดือนติดต่อกัน
ด้านดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของฝรั่งเศสก็ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 49.8 ในเดือนส.ค. จากระดับ 48.6 ในเดือนก.ค.
นักเศรษฐศาสตร์จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ให้ความเห็นว่า แม้ตัวเลขดังกล่าวจะเป็นสัญญาณบวกที่น่าจับตา แต่ก็ต้องมองด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจของฝรั่งเศสยังคงอ่อนแอและมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะความเสี่ยงจากวิกฤตการเมืองที่อาจเกิดขึ้นอีกระลอก
แม้ภาพรวมจะดีขึ้น แต่ธุรกิจใหม่ในภาคบริการยังคงหดตัว โดยเฉพาะคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่ลดลงอย่างมาก ขณะเดียวกัน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
ปัจจัยสำคัญที่กดดันแนวโน้มเศรษฐกิจคือความวุ่นวายทางการเมืองที่ยังดำเนินอยู่ หลังจากนายกรัฐมนตรีเตรียมเสนอญัตติขอความไว้วางใจในรัฐบาลเสียงข้างน้อยของตนในวันที่ 8 ก.ย.นี้ ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มสูงที่จะพ่ายแพ้ในการลงมติ