ริชาร์ด มาร์ลส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย เปิดเผยวันนี้ (14 ก.ย.) ว่า สหรัฐฯ จะสามารถเข้าใช้ฐานทัพและอู่ต่อเรือแห่งใหม่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งจะถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการส่งมอบเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ภายใต้ข้อตกลงไตรภาคี AUKUS
เมื่อผู้สื่อข่าวซักถามว่าสหรัฐฯ จะสามารถนำเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของตนเข้าใช้อู่แห้งที่แห่งนี้ได้หรือไม่ มาร์ลส์ตอบว่า "ที่นี่เป็นฐานปฏิบัติการของ AUKUS ดังนั้นผมจึงคาดว่าจะเป็นเช่นนั้น"
"เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาศักยภาพเรือดำน้ำในอนาคตของออสเตรเลีย แต่ก็เป็นฐานที่สร้างขึ้นในบริบทของ AUKUS" มาร์ลส์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ABC "ผมคาดว่าในอนาคต สหรัฐฯ จะสามารถเข้าใช้บริการได้เช่นกัน"
ด้านนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี กล่าวในวันเดียวกันว่า ก่อนที่ออสเตรเลียจะได้รับมอบเรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนีย อู่ต่อเรือแห่งนี้จะรองรับ "กองเรือจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรที่จะหมุนเวียนเข้ามาประจำการ"
"สิ่งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อพันธมิตรของเรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง AUKUS" นายกฯ อัลบาเนซีกล่าวในการแถลงข่าวที่นครเพิร์ท
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 ก.ย.) รัฐบาลออสเตรเลียระบุว่าจะใช้งบประมาณ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อปรับปรุงอู่ต่อเรือเฮนเดอร์สัน บริเวณใกล้กับนครเพิร์ท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน 20 ปี ที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการซ่อมบำรุงกองเรือดำน้ำของกลุ่ม AUKUS
ทั้งนี้ ข้อตกลง AUKUS ซึ่งลงนามร่วมกันโดยออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ในปี 2564 มีเป้าหมายเพื่อจัดหาเรือดำน้ำโจมตีให้ออสเตรเลียตั้งแต่ทศวรรษหน้าเป็นต้นไป เพื่อถ่วงดุลอำนาจของจีนที่แสดงบทบาทอย่างสูงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
ภายใต้ข้อตกลงมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์นี้ สหรัฐฯ จะขายเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ชั้นเวอร์จิเนียหลายลำให้ออสเตรเลีย ขณะที่สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียจะร่วมกันสร้างเรือดำน้ำชั้น AUKUS รุ่นใหม่ในภายหลัง
รัฐบาลพรรคแรงงานได้ลงทุนเบื้องต้น 127 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อปีที่แล้ว เพื่อปรับปรุงอู่ต่อเรือแห่งนี้ ซึ่งจะใช้สร้างเรือยกพลขึ้นบกใหม่สำหรับกองทัพบก และเรือฟริเกตอเนกประสงค์ใหม่สำหรับกองทัพเรือด้วย โดยคาดว่าจะสร้างงานในท้องถิ่นได้ราว 10,000 ตำแหน่ง
ปัจจุบัน รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังทบทวนข้อตกลงนี้อย่างเป็นทางการ นำโดยเอลบริดจ์ โคลบี เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านนโยบายของเพนตากอน ซึ่งเป็นผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงนี้ต่อสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ประธานคณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐฯ ว่าด้วยการแข่งขันทางยุทธศาสตร์กับจีนจากทั้งสองพรรคใหญ่ ได้แสดงการสนับสนุนข้อตกลง AUKUS อย่างเต็มที่
มาร์ลส์กล่าวว่า เขายังคง "มั่นใจอย่างยิ่งว่า AUKUS จะดำเนินต่อไปได้ภายใต้รัฐบาลทรัมป์" หลังจากการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเขาได้พบกับพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ
"เราได้พูดคุยเรื่อง AUKUS ในการประชุมที่วอชิงตันเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน และมีท่าทีที่เป็นบวกต่อแนวทางการทำงานของเรา" มาร์ลส์กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ Sky News
ก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียซึ่งเพิ่งลงนามในสนธิสัญญากับสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนก.ค. เพื่อกระชับความร่วมมือด้าน AUKUS ในอีก 50 ปีข้างหน้า ได้ยืนยันมาโดยตลอดว่ามั่นใจว่าข้อตกลงนี้จะเดินหน้าต่อไปได้