รัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศ G7 ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (1 ต.ค.) เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้หนักข้อขึ้นต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย หวังยุติสงครามที่ดำเนินอยู่ในยูเครนให้ได้
รัฐมนตรีคลัง G7 ระบุในแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมผ่านระบบออนไลน์ว่า "พวกเราเห็นตรงกันว่า ตอนนี้คือเวลาที่จะต้องบีบการส่งออกน้ำมัน ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ก้อนใหญ่ของรัสเซีย ให้หนักที่สุดเท่าที่จะทำได้"
รัฐมนตรีระบุว่า กลุ่มประเทศประชาธิปไตยชั้นนำเหล่านี้ ซึ่งมีแคนาดา ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ รวมอยู่ด้วย จะพุ่งเป้าไปที่ "ผู้ที่ยังคงซื้อน้ำมันรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการบุกยูเครน รวมถึงกลุ่มที่คอยอำนวยความสะดวกในการเลี่ยงมาตรการต่าง ๆ ด้วย"
เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงการทำสงครามของรัสเซีย สหรัฐอเมริกาได้ผลักดันให้ชาติสมาชิก G7 อื่น ๆ เก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงขึ้น กับประเทศที่ยังนำเข้าน้ำมันรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีนและอินเดีย
คัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น กล่าวที่กรุงโตเกียวว่า ในที่ประชุม ตนได้ย้ำความตั้งใจของญี่ปุ่นที่จะทำหน้าที่ของตนต่อไป และพร้อมให้การสนับสนุนยูเครนเท่าที่จำเป็น
คาโตะกล่าวว่า "การที่แต่ละฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการกดดันรัสเซีย (ให้ยุติสงคราม) เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง เพื่อให้ยูเครนมีสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืนได้จริง ๆ" แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ แคนาดาดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของกลุ่ม G7 ในปีนี้ ซึ่งมีอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสหภาพยุโรป (EU) เข้าร่วมด้วย