ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันจันทร์ (6 ต.ค.) ว่า สหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีนำเข้ารถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ทุกประเภทในอัตรา 25% ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยระบุเมื่อเดือนก.ย.ว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ในอัตราเดียวกันที่ 25% โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ และจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนต.ค. แต่ภาษีดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้นจริง โดยทำเนียบขาวไม่ได้ชี้แจงสาเหตุของความล่าช้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรา 232 ภายใต้กฎหมายส่งเสริมการค้า ค.ศ. 1962 เพื่อเปิดการสอบสวนว่าการนำเข้ารถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ รวมถึงชิ้นส่วนของรถเหล่านี้ เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศหรือไม่
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้เริ่มการสอบสวนดังกล่าวตั้งแต่เดือนเม.ย. โดยนิยามว่า รถบรรทุกขนาดกลางคือรถที่มีน้ำหนักรวมทั้งคันระหว่าง 10,00126,000 ปอนด์ หรือราว 4.511.8 เมตริกตัน ส่วนรถบรรทุกขนาดใหญ่หมายถึงรถที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 26,001 ปอนด์ขึ้นไป
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทรัมป์ยังได้เรียกเก็บภาษีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถบรรทุกขนาดเล็กเพิ่มอีก 25% ส่งผลให้ภาษีของรถยนต์อยู่ที่ 27.5% และรถบรรทุกขนาดเล็กอยู่ที่ 50%
อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป (EU) ได้ทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับสหรัฐฯ ซึ่งช่วยลดภาษีสำหรับรถยนต์เหลือ 15% และรถบรรทุกขนาดเล็กลดลงเหลือ 25%
ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการภาษีครั้งใหม่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมากน้อยเพียงใด