อังกฤษประกาศคว่ำบาตรบริษัทลูคอยล์ (Lukoil) และรอสเนฟต์ (Rosneft) ซึ่งเป็นสองบริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของรัฐบาลรัสเซีย รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมันอีก 44 ลำในวันพุธ (15 ต.ค.) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการคว่ำบาตรด้านพลังงานและตัดท่อน้ำเลี้ยงด้านรายได้ในการทำสงครามของรัสเซีย
ลูคอยล์และรอสเนฟต์ถูกกำหนดให้อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรที่อังกฤษบังคับใช้กับรัสเซีย เนื่องจากอังกฤษมองว่าบริษัททั้งสองแห่งมีบทบาทในการสนับสนุนรัฐบาลรัสเซีย โดยบริษัทเหล่านี้จะต้องเผชิญกับการถูกอายัดทรัพย์สินและถูกจำกัดการขนส่ง
ทางการอังกฤษระบุว่า ทั้งสองบริษัทมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์กับรัสเซีย และมีส่วนในการสนับสนุนรายได้แก่รัฐ ซึ่งช่วยหล่อเลี้ยงสงครามในยูเครน
ทั้งนี้ รอสเนฟต์เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ซึ่งครองสัดส่วนราว 40% ของผลผลิตทั้งหมดของประเทศ และลูคอยล์เป็นผู้ผลิตรายใหญ่เป็นอันดับสอง
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดียได้ให้คำมั่นสัญญาว่า อินเดียจะยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย และก้าวต่อไปของสหรัฐฯ คือการโน้มน้าวให้จีนยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซียเช่นกัน ในขณะที่สหรัฐฯ ได้เพิ่มความพยายามในการตัดรายได้ด้านพลังงานของรัสเซีย และกดดันให้รัสเซียเข้าร่วมการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงสันติภาพในยูเครน
รัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (G7) ร่วมหารือแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพในการจำกัดการส่งออกน้ำมันและรายได้ของรัสเซีย เพื่อกดดันให้รัสเซียยุติสงครามกับยูเครน