สมาชิกรัฐสภามองโกเลียได้ลงมติให้ปลดนายกรัฐมนตรี กอมโบจาฟ ซานดานชาตาร์ ออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หลังจากที่เขาสูญเสียเสียงสนับสนุนในสภา ปิดฉากการดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐบาลที่ดำเนินมาได้เพียง 4 เดือน
ซานดานชาตาร์ วัย 55 ปี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและประธานรัฐสภา เพิ่งได้รับการรับรองให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แทนที่ลุฟซันนัมซไรน์ โอยุน-เอร์เดเน ซึ่งลาออกไปก่อนหน้านี้ หลังสูญเสียการสนับสนุนจากรัฐสภาเช่นกัน จากข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันและการลงถนนประท้วงของประชาชน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลังจากนี้ คาดว่าประธานาธิบดีอุคนา คูเรลซูค ซึ่งเป็นประมุขแห่งรัฐมาตั้งแต่ปี 2564 จะเป็นผู้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ให้รัฐสภา หรือ "สภาเกรต คูรัล" (State Great Khural) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
ทั้งนี้ การเมืองของมองโกเลียต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างหนักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจของประชาชนต่อปัญหาการทุจริตที่ฝังรากลึกและภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอ
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ธนาคารโลก (World Bank) เพิ่งปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของมองโกเลียในปี 2568 ลงเหลือ 5.9% จากเดิมที่เคยประเมินไว้ที่ 6.3% เมื่อเดือนเม.ย. โดยอ้างถึงปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งราคาถ่านหินที่ลดลง ความไม่แน่นอนทางการค้าโลก รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงและค่าจ้างที่ยังคงซบเซา
สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของมองโกเลียในปี 2567 เติบโตอยู่ที่ 4.9%