ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ของเกาหลีใต้ บรรลุข้อตกลงทางการค้าอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) ปิดฉากการเจรจายาวนานหลายเดือน เพื่อสรุปรายละเอียดภายใต้กรอบความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เกาหลีใต้จะลงทุน 150,000 ล้านดอลลาร์ ในอุตสาหกรรมต่อเรือ และจัดสรรงบเพิ่มเติมอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับแผนการลงทุนเพิ่มเติมที่มีลักษณะใกล้เคียงกับข้อตกลงที่ทำไว้กับญี่ปุ่น
คิม ยงบอม หัวหน้าฝ่ายนโยบายของเกาหลีใต้กล่าวว่า การลงทุนดังกล่าวจะอยู่ในรูปแบบของเงินทุน เงินกู้ และการค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขผ่อนปรนสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกัน
นอกจากนี้ เกาหลีใต้ตกลงที่จะสั่งซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐฯ ในปริมาณมหาศาล พร้อมคาดว่ามูลค่าการลงทุนของภาคเอกชนเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ จะสูงกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์
ส่วนสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์จากเกาหลีใต้จาก 25% เหลือ 15% ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของค่ายรถยนต์เกาหลี หลังญี่ปุ่นได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังจะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ยา ให้สอดคล้องกับอัตราภาษีต่ำสุดที่สหรัฐฯ มอบให้ประเทศคู่ค้ารายอื่น
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ได้อนุมัติให้เกาหลีใต้สร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ แทนเรือดีเซลรุ่นเก่าที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยจะดำเนินการก่อสร้างที่อู่ต่อเรือในเมืองฟิลาเดลเฟีย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมต่อเรือของสหรัฐฯ ให้เติบโตมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีอีได้ผลักดันให้สหรัฐฯ อนุญาตให้เกาหลีใต้สามารถนำเชื้อเพลิงนิวเคลียร์กลับมาใช้ในโครงการเรือดำน้ำ เพื่อแทนที่เรือดีเซลที่ใช้ในกองเรือปัจจุบันของประเทศ