ประธานการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมระดับภูมิภาคที่จัดขึ้นในมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) ว่า อาเซียนควรร่วมมือกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคง
คาเล็ด นอร์ดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย ในฐานะประธานการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนร่วมกับประเทศคู่เจรจา ระบุว่า การประชุมครั้งนี้ "ทำให้เราประกาศได้อย่างชัดเจนว่า ภูมิภาคนี้ยังคงเป็นเขตแห่งสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลาง ไม่ใช่เวทีการแข่งขันในทางยุทธศาสตร์"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประชุมดังกล่าว หรือที่รู้จักในชื่อ ADMM-Plus ได้รวมสมาชิกอาเซียน 11 ประเทศ และประเทศคู่เจรจา 8 ประเทศ เข้ามาหารือเพื่อจัดการกับประเด็นความมั่นคงหลัก เช่น การโจมตีทางไซเบอร์และข้อพิพาททางทะเล
พีท เฮกเซ็ธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ, ต่ง จวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจีน และชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ก็ได้เข้าร่วมการประชุมนี้เช่นเดียวกัน
การประชุมครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ทั้งในประเด็นการค้าและเทคโนโลยี รวมถึงความตึงเครียดที่ยังคงมีอยู่จากท่าทีที่จีนแสดงออกอย่างแข็งกร้าวมากขึ้นในพื้นที่ทะเลจีนใต้และช่องแคบไต้หวัน
สมาชิกอาเซียนประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา ติมอร์-เลสเต อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
ส่วนประเทศคู่เจรจา 8 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา