ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม แห่งเม็กซิโก ได้ออกมาปฏิเสธข้อเสนอความช่วยเหลือด้านความมั่นคงเพิ่มเติมจากทางการสหรัฐฯ ภายหลังเกิดเหตุลอบสังหารนายกเทศมนตรีอย่างอุกอาจ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่มีการทบทวนนโยบายด้านความมั่นคง แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะสร้างความกังวลต่อประสิทธิภาพในการรับมือกับกลุ่มอาชญากรรมในประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเหตุลอบสังหารคาร์ลอส อัลเบร์โต มันโซ โรดริเกซ นายกเทศมนตรีเมืองอูรัวปัน ในรัฐมิโชอากัน ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความรุนแรงสูงที่สุดของประเทศ โดยปธน.เชนบามได้ออกมาปกป้องแนวทางการดำเนินงานของรัฐบาล และยืนกรานว่ารัฐบาลสามารถลดสถิติคดีฆาตกรรมได้สำเร็จ
ปธน.เชนบามกล่าวเมื่อวันจันทร์ (3 พ.ย.) ว่า "บางฝ่ายกำลังเรียกร้องให้ใช้กำลังทหารและก่อสงคราม เหมือนที่เคยทำในสงครามยาเสพติด ซึ่งเป็นแนวทางที่ล้มเหลว" พร้อมทั้งตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองว่ากำลังฉวยโอกาสจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ประหนึ่งฝูงอีแร้งและสัตว์กินซาก
ผู้นำเม็กซิโกย้ำว่า รัฐบาลจะมุ่งเน้นการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในรัฐมิโชอากันและรัฐอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการยกระดับประสิทธิภาพด้านการข่าวกรองและการสืบสวนสอบสวน รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุของความรุนแรง
ทั้งนี้ มันโซ วัย 40 ปี ถูกมือปืนระดมยิงเสียชีวิตเมื่อคืนวันเสาร์ (1 พ.ย.) ขณะเข้าร่วมงานเทศกาลวันแห่งผู้ล่วงลับ (Day of the Dead) ในย่านใจกลางเมืองอูรัวปัน โดยมือปืนถูกสังหารในที่เกิดเหตุเช่นกัน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแม้ว่ามันโซจะอยู่ภายใต้การอารักขาของเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังพิทักษ์ชาติรวม 14 นายมาตั้งแต่เดือนธ.ค. 2567 และเพิ่งได้รับการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ มันโซเคยร้องขอความช่วยเหลือโดยตรงไปยังปธน.เชนบามผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อต่อกรกับกลุ่มอิทธิพลมืด และเคยกล่าวหาผู้ว่าการรัฐมิโชอากันซึ่งเป็นพันธมิตรของปธน.เชนบาม ว่าปล่อยปละละเลยให้แก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่แผ่อิทธิพลในพื้นที่
สำหรับข้อเสนอของคริสโตเฟอร์ แลนเดา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงนั้น ปธน.เชนบามกล่าวว่า "เม็กซิโกเป็นประเทศเอกราชและมีอธิปไตยเป็นของตนเอง เรายินดีรับความช่วยเหลือด้านข้อมูลและการข่าวกรอง แต่เราจะไม่ยอมรับการแทรกแซง"
พร้อมกันนี้ ปธน.เชนบามให้คำมั่นสัญญาว่าจะเร่งรัดการสืบสวนเพื่อนำตัวผู้บงการเหตุลอบสังหารนายมันโซมาลงโทษให้ได้ และ "จะไม่มีผู้กระทำผิดคนใดลอยนวลไปได้"