กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยในวันนี้ (19 พ.ย.) ว่า กองกำลังยูเครนได้ยิงขีปนาวุธ ATACMS (Army Tactical Missile Systems) ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ จำนวน 4 ลูก เข้าใส่เมืองโวโรเนจ (Voronezh) ทางตอนใต้ของรัสเซีย โดยระบุว่าเป็นความพยายามโจมตีเป้าหมายพลเรือน
ขณะที่กองทัพยูเครนแถลงเมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) ว่า ได้ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายทางทหารในดินแดนรัสเซียด้วยขีปนาวุธ ATACMS ที่ได้รับจากสหรัฐฯ โดยระบุว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็น "พัฒนาการครั้งสำคัญ"
อนึ่ง รัฐบาลยูเครนได้รับมอบระบบขีปนาวุธดังกล่าวในปี 2566 แต่ในช่วงแรกถูกจำกัดให้ใช้งานได้เฉพาะภายในดินแดนของตนเองเท่านั้น ขณะที่พื้นที่ราว 1 ใน 5 ของยูเครนตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า "ระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 และระบบปืนใหญ่/ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศปานซีร์ (Pantsir) ของรัสเซีย สามารถยิงสกัดขีปนาวุธ ATACMS ตกได้ทั้งหมด"
อย่างไรก็ตาม เศษซากจากการทำลายขีปนาวุธได้ตกลงมาสร้างความเสียหายแก่หลังคาของบ้านพักคนชรา สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และบ้านพักอาศัยอีก 1 หลังในเมืองโวโรเนจ แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ ยังได้เผยแพร่ภาพชิ้นส่วนขีปนาวุธ พร้อมระบุว่าหน่วยลาดตระเวนทางอากาศตรวจพบว่าจุดปล่อยขีปนาวุธ ATACMS อยู่ในแคว้นคาร์คีฟ (Kharkiv) ซึ่งรัสเซียได้ตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธ "อิสกันเดอร์-เอ็ม" (Iskander-M) ทำลายเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องของยูเครนจำนวน 2 เครื่อง
ทั้งนี้ เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ยูเครนเคยใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีดินแดนรัสเซียมาแล้ว โดยยิงขีปนาวุธ 6 ลูกใส่แคว้นเบลโกรอด ขณะที่ในปีที่แล้ว หลังจากยูเครนยิงขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐฯ และขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ (Storm Shadow) ของอังกฤษเข้าไปในรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สั่งการให้ยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกถล่มยูเครนเพื่อเป็นการตอบโต้