ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในร่างกฎหมายในวันพุธ (19 พ.ย.) เพื่อเปิดเผยเอกสารการสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ในคดีของเจฟฟรีย์ เอปสตีน ผู้กระทำความผิดทางเพศซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว
เอกสารดังกล่าวอาจช่วยขยายความให้เห็นถึงเครือข่ายความสัมพันธ์ของเอปสตีน ซึ่งเคยพบปะสังสรรค์กับปธน.ทรัมป์และบุคคลที่มีชื่อเสียงรายอื่น ๆ ก่อนที่เอปสตีนจะถูกตัดสินว่ามีความผิดในปี 2551 ในข้อหาชักชวนผู้เยาว์เพื่อการค้าประเวณี
ประเด็นอื้อฉาวนี้สร้างแรงกดดันให้กับปธน.ทรัมป์มานานหลายเดือน ส่วนหนึ่งเพราะทรัมป์เองเป็นคนที่กระพือทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับคดีนี้ ทำให้ผู้สนับสนุนเขาเองเชื่อว่ารัฐบาลปกปิดความสัมพันธ์ของเอปสตีนกับบุคคลทรงอิทธิพลทั้งหลาย รวมถึงปิดบังเงื่อนงำการเสียชีวิตของเอปสตีนในเรือนจำแมนฮัตตันเมื่อปี 2562 ซึ่งทางการระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ขณะที่เอปสตีนกำลังเผชิญข้อหาค้ามนุษย์ทางเพศ
แพม บอนดี อัยการสูงสุดสหรัฐฯ แถลงยืนยันว่า DOJ จะดำเนินการเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีเอปสตีนภายใน 30 วัน ตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 พ.ย.)
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยเอกสารในครั้งนี้อาจไม่มีรายละเอียดครบถ้วนสมบูรณ์ เนื่องจากกฎหมายอนุญาตให้ DOJ สงวนข้อมูลส่วนบุคคลของเหยื่อ และระงับการเปิดเผยข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อการสืบสวนที่กำลังดำเนินอยู่
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ได้สั่งการให้ DOJ ตรวจสอบบุคคลในพรรคเดโมแครตหลายรายที่มีความเชื่อมโยงกับเอปสตีน ซึ่งเจ้าหน้าที่ DOJ อาจพิจารณาไม่เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลกลุ่มดังกล่าว โดย DOJ มักอ้างเหตุผลเรื่องความจำเป็นในการคุ้มครองการสืบสวนที่ยังไม่สิ้นสุดเพื่อระงับการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ DOJ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลเปิดเผยบันทึกการไต่สวนของคณะลูกขุนใหญ่ในคดีของเอปสตีนและกิเลน แม็กซ์เวลล์ อดีตคนสนิทของเอปสตีน แต่ศาลปฏิเสธคำร้องดังกล่าว