รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกคำสั่งบังคับติดตั้งแอปพลิเคชันของรัฐลงในสมาร์ตโฟนแล้วเมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) ภายหลังเผชิญแรงกดดันรอบด้านจากทั้งฝ่ายการเมืองและบริษัทเทคโนโลยี
เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 พ.ย. รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ได้แจ้งบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น แอปเปิ้ล (Apple), ซัมซุง (Samsung) และเสียวหมี่ (Xiaomi) ในทางลับ โดยกำหนดเงื่อนไขให้โทรศัพท์รุ่นใหม่ต้องติดตั้งแอปความปลอดภัยชื่อ "Sanchar Saathi" ภายใน 90 วัน และต้องเป็นระบบที่ "ลบออกไม่ได้" ซึ่งแหล่งข่าวในวงการระบุว่าคำสั่งลักษณะนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลก ยกเว้นกรณีของรัสเซียเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ที่สั่งฝังแอปแชตของรัฐลงในอุปกรณ์สื่อสารเพื่อสอดแนมประชาชน
ทันทีที่สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยข่าวนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 ธ.ค.) ก็ได้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงทันที พรรคฝ่ายค้านและนักรณรงค์สิทธิส่วนบุคคลต่างกังวลเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัว ขณะที่ผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิ้ลและซัมซุงก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
แม้รัฐมนตรีจะพยายามชี้แจงว่าแอปนี้มีไว้เพียงเพื่อติดตามและปิดกั้นมือถือที่ถูกขโมย แต่สุดท้ายกระทรวงการสื่อสารอินเดียก็ตัดสินใจออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่า "รัฐบาลตัดสินใจที่จะไม่บังคับให้ผู้ผลิตมือถือต้องติดตั้งแอปพลิเคชันนี้ล่วงหน้า"
รัฐบาลอ้างเหตุผลในการกลับลำครั้งนี้ว่า ไม่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายแล้ว เนื่องจากแอปได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเองอย่างชัดเจน โดยระบุว่าเพียงแค่วันอังคาร (2 ธ.ค.) วันเดียวมีประชาชนดาวน์โหลดไปกว่า 600,000 ครั้ง พร้อมยืนยันว่า "แอปนี้ปลอดภัยและมีจุดประสงค์เพียงเพื่อช่วยประชาชนจากผู้ไม่หวังดีในโลกไซเบอร์เท่านั้น"
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนนโยบายไปมาสร้างความไม่พอใจให้หลายฝ่าย โดย มิศี เจาธรี ทนายความด้านเทคโนโลยีให้ความเห็นว่า กฎระเบียบที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของอินเดียเป็นอุปสรรคใหญ่ของภาคธุรกิจ "แม้การยกเลิกคำสั่งเป็นเรื่องดี แต่การออกนโยบายตามอำเภอใจโดยไม่วิเคราะห์ว่าวิธีไหนแก้ปัญหาฉ้อโกงได้จริง ก็น่ากังวลอยู่ดี"
ด้าน รณทีป สิงห์ สุรเชวาลา แกนนำพรรคคองเกรส ได้ยื่นหนังสือต่อรัฐสภาเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงอำนาจทางกฎหมายในเรื่องนี้ พร้อมเตือนถึงความเสี่ยงร้ายแรงว่า "สิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือ แอปที่ถูกบังคับติดตั้งเช่นนี้อาจมีช่องโหว่ ซึ่งจะทำลายข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างสิ้นเชิง"
ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลโมดีต้องยอมถอยเพราะแรงต่อต้าน โดยก่อนหน้านี้ในปี 2563 รัฐบาลเคยพยายามบังคับใช้แอปติดตามตัวช่วงโควิด-19 แต่ต้องลดระดับเป็นเพียงการขอความร่วมมือ และเมื่อปีที่แล้วก็ต้องยกเลิกนโยบายจำกัดการนำเข้าแล็ปท็อปหลังจากถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ล็อบบี้