"มาครง" เยือนจีน ถก "สี" แก้ปมยูเครน-ปรับสมดุลการค้า พร้อมลงนามความร่วมมือ 12 ฉบับ

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 4, 2025 16:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 4 พร้อมคณะนักธุรกิจชุดใหญ่ โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเร่งรัดให้จีนยกระดับความร่วมมือด้านภูมิรัฐศาสตร์และการค้า รวมถึงหวังดึงจีนให้ช่วยยุติสงครามในยูเครน ท่ามกลางความพยายามของจีนที่ต้องการลดแรงเสียดทานทางการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) และสร้างแต้มต่อทางการทูตในช่วงที่สหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มใช้มาตรการกำแพงภาษี

ในการพบปะหารือที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง วันนี้ (4 ธ.ค.) บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้เกียรติจะเดินทางไปส่งมาครงที่มณฑลเสฉวนในวันศุกร์นี้ (5 ธ.ค.) ด้วยตนเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องพิเศษที่ผู้นำจีนไม่ค่อยปฏิบัติกับผู้นำต่างชาติบ่อยนัก

มาครงได้กล่าวเน้นย้ำกับผู้นำจีนว่า "ขณะนี้ การพูดคุยกันระหว่างจีนกับฝรั่งเศสสำคัญยิ่งกว่าเวลาใด ผมขอเสนอวาระเชิงบวก 3 ด้านสำหรับความสัมพันธ์ของเรา คือเสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ การปรับสมดุลทางเศรษฐกิจ และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม"

ในประเด็นสงครามยูเครน มาครงระบุว่า "เราต้องเดินหน้าเรียกร้องสันติภาพและเสถียรภาพโลกต่อไป ความร่วมมือของเราคือปัจจัยชี้ขาด"

ด้านสี จิ้นผิง ได้ตอบรับโดยเน้นย้ำจุดยืนของจีนว่า "ไม่ว่าสถานการณ์ภายนอกจะเปลี่ยนไปอย่างไร ประเทศของเราทั้งสองควรแสดงความเป็นอิสระและวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์แบบมหาอำนาจเสมอ" พร้อมยืนยันว่าจีนยังคงมุ่งมั่นส่งเสริมสันติภาพทั้งในยูเครนและฉนวนกาซา

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าท่าทีของจีนเรื่องยูเครนคงไม่เปลี่ยนไปมากนัก เนื่องจากจีนเพิ่งให้คำมั่นกับรัสเซียว่าจะสนับสนุนต่อไป

นอกเหนือจากเรื่องความมั่นคง ประเด็นเศรษฐกิจถือเป็นหัวใจสำคัญของการเยือนครั้งนี้ มาครงต้องการกู้ผลงานช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งปี 2570 โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทยักษ์ใหญ่ร่วมคณะมาด้วย อาทิ แอร์บัส (Airbus), ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ (BNP Paribas), ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) และอัลสตอม (Alstom) เพื่อเจรจาแก้ปัญหาการขาดดุลการค้าของฝรั่งเศสและยุโรปที่พุ่งสูงขึ้น

มาครงกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ประเทศเราทั้งสองมีบทบาทต้องร่วมมือกับพันธมิตรอื่น ๆ วางรากฐานการกำกับดูแลเศรษฐกิจให้สมดุล" โดยเขาเรียกร้องให้สร้างกฎกติกาที่ยุติธรรมและเข้มแข็ง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบ "ผู้ที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่รอด" (Survival of the fittest) พร้อมทั้งย้ำว่า "เราจำเป็นต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และจัดการความเสี่ยงทุกอย่างที่จะกระทบความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน"

แม้จะมีการเจรจา แต่ความตึงเครียดทางการค้ายังคงมีอยู่สูง นักวิเคราะห์ประเมินว่าจีนคงไม่อนุมัติคำสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส 500 ลำในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเก็บไว้ต่อรองกับสหรัฐฯ ที่บีบให้ซื้อโบอิ้ง (Boeing) รวมถึงคงไม่ยอมถอยเรื่องมาตรการตอบโต้สินค้าบรั่นดีและเนื้อหมูจากยุโรป ตราบใดที่ EU ยังคงภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีน ซึ่งฝรั่งเศสเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่โหวตสนับสนุน

ผลจากการหารือ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ 12 ฉบับ ครอบคลุมด้านสังคมผู้สูงวัย การลงทุน พลังงานนิวเคลียร์ และการอนุรักษ์แพนด้า นอกจากนี้ จีนยังใช้โอกาสนี้ประกาศมอบเงินช่วยเหลือฟื้นฟูปาเลสไตน์เพิ่มอีก 100 ล้านดอลลาร์ และชักชวนให้ฝรั่งเศสขยายความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งอวกาศ เอไอ และเศรษฐกิจสีเขียว

ปัจจุบัน จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 7 ของฝรั่งเศส มียอดสั่งซื้อสินค้าปีละราว 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยสินค้าหลักคือเครื่องสำอางและชิ้นส่วนเครื่องบิน ขณะที่ฝรั่งเศสนำเข้าสินค้าจีนสูงถึง 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคราคาถูกที่ส่งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีของ EU


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ