จีนออกมาวิจารณ์สหรัฐฯ อย่างรุนแรง โดยระบุว่า สหรัฐฯ กำลังพยายามบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดีย ผ่านรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งจีนมองว่าเป็นแนวทางที่ขาดความรับผิดชอบ
หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.) ว่า รายงานล่าสุดของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ บิดเบือนนโยบายด้านกลาโหมของจีน สร้างความแตกแยกระหว่างจีนกับประเทศอื่น ๆ และมีเป้าหมายเพื่อหาเหตุอ้างให้สหรัฐฯ รักษาความเป็นมหาอำนาจทางทหารของตนเอง
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับรายงานที่ระบุว่า จีนอาจใช้การผ่อนคลายความตึงเครียดกับอินเดียเป็นเครื่องมือขัดขวางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอินเดีย โดยหลินย้ำว่า จีนต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับอินเดียบนเส้นทางที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมระบุว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศโดยทั่วไปยังคงมีเสถียรภาพ
จีนและอินเดียได้ดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูและรักษาเสถียรภาพความสัมพันธ์นับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศสามารถคลี่คลายความตึงเครียดตามแนวชายแดนได้ และในเดือนส.ค. นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้เดินทางเยือนจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี
ต่อมาในเดือนต.ค. เที่ยวบินตรงระหว่างจีนและอินเดียกลับมาให้บริการอีกครั้ง หลังจากหยุดชะงักไปนานกว่า 5 ปี โดยความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ทั้งสองประเทศได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ จีนได้วิพากษ์วิจารณ์รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า การเสริมกำลังทหารครั้งใหญ่ของจีนกำลังเพิ่มความเสี่ยงต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ