รัฐบาลกัมพูชาประกาศคำสั่งห้ามบินโดรนโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะตามแนวชายแดนจังหวัดที่มีอาณาเขตติดกับประเทศไทย พร้อมปฏิเสธไม่เคยส่งโดรนขึ้นบินตามที่ฝ่ายไทยกล่าวหา หลังพบโดรนเขมรล้ำอธิปไตยไทยกว่า 250 ลำ
กระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกคำสั่งเมื่อคืนวันจันทร์ (29 ธ.ค.) ระบุว่า "ขอสั่งห้ามการใช้งานอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทุกประเภทโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งในเมืองหลวงและจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดน ได้แก่ เกาะกง โพธิสัตว์ พระตะบอง บันทายมีชัย อุดรมีชัย พระวิหาร และไพลิน"
คำสั่งดังกล่าวระบุว่า มาตรการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความมั่นคง ความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยของประชาชนและกำลังพลในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ พร้อมย้ำว่า "ผู้ใดที่ฝ่าฝืนหรือใช้งานโดรนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงกลาโหม จะต้องโทษตามกฎหมาย" นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังอนุญาตให้หน่วยทหารใช้ระบบต่อต้านโดรนได้หากจำเป็น
รายงานจากสื่อกัมพูชาอ้างว่า กัมพูชาสั่งห้ามบินโดรนบริเวณชายแดนไทยมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนส.ค. หลังจากเกิดเหตุปะทะชายแดนรอบแรกในช่วงปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การบังคับใช้มาตรการล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทางการไทยเปิดเผยเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ว่า "ตรวจพบโดรนมากกว่า 250 ลำ บินมาจากฝั่งกัมพูชาและล่วงล้ำอธิปไตยของไทย"
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ถึงสถานการณ์เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค. ว่า ได้มีการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) บินจากฝั่งกัมพูชาล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของประเทศไทยเป็นจำนวนมากกว่า 250 ลำ โดยพบการเคลื่อนไหวอย่างหนาแน่นในพื้นที่ช่องบก ช่องอานม้า เขาสัตตะโสม ซำแต โดนตวล ช่องกร่าง ปราสาทตาเมือนธม และช่องสายตะกู ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการยั่วยุและละเมิดมาตรการลดระดับความตึงเครียด อันเป็นการไม่สอดคล้องกับถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) จากผลการประชุม GBC เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยพลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงยืนยันว่า "กระทรวงกลาโหมและส่วนบริหารจังหวัดชายแดนได้ออกคำสั่งห้ามขึ้นบินโดรนทุกประเภทอย่างเคร่งครัด เราขอยืนยันว่าไม่มีการส่งโดรนขึ้นบินตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด"
โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชา ในการปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมจากการประชุม GBC นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. และถ้อยแถลงผลการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับกัมพูชา (Joint Declaration) ที่ลงนามเมื่อวันที่ 26 ต.ค. เพื่อฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติ และสร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ กัมพูชาและไทยได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อเห็นชอบให้มีการหยุดยิงทันที หลังจากเกิดการปะทะรุนแรงยืดเยื้อมานานกว่าสามสัปดาห์