กระทรวงกลาโหมของไต้หวันแถลงยืนยันในวันนี้ (31 ธ.ค.) ว่า พบเครื่องบินทหารของจีนรวมทั้งสิ้น 207 ลำ บินอยู่รอบเกาะไต้หวันในช่วงเวลา 48 ชั่วโมงจนถึงช่วงเช้าวันนี้ ในขณะที่จีนยังคงเดินหน้าซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน และหลายฝ่ายมองว่าเป็นการส่งคำเตือนถึงไต้หวันที่กำลังพยายามแยกตัวเป็นเอกราช
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า จากจำนวนเครื่องบินทั้งหมดที่พบจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีเครื่องบินจำนวน 125 ลำได้บินข้ามเส้นมัธยฐาน (Median Line) ของช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นเส้นเขตแดนอย่างไม่เป็นทางการที่ทั้งสองฝ่ายให้ความเคารพมาอย่างยาวนาน แต่จีนเริ่มเพิกเฉยมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
กองทัพจีนได้ยิงจรวดรวมทั้งสิ้น 27 ลูก โดยแบ่งยิงเป็นสองระลอกในระหว่างเวลา 09.00 น. - 13.00 น. ของวันอังคาร (30 ธ.ค.) จากมณฑลฝูเจี้ยนซึ่งเป็นมณฑลชายฝั่ง โดยจรวดตกลงสู่พื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จีนมองว่าไต้หวันเป็นมณฑลที่ทรยศซึ่งต้องนำกลับมารวมกับแผ่นดินใหญ่ให้ได้ โดยอาจต้องใช้กำลังหากจำเป็น และการซ้อมรบทางทหารรอบล่าสุดที่เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบโต้การแบ่งแยกดินแดนและการแทรกแซงจากภายนอก
ทั้งนี้ กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออก (Eastern Theater Command) ของจีน ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ช่องแคบไต้หวัน ได้เปิดปฏิบัติการซ้อมรบภายใต้ชื่อ "ภารกิจยุติธรรม 2025" (Justice Mission 2025) ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการ 5 แห่งรอบเกาะไต้หวัน โดยระบุว่าจะมีการฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริง พร้อมสั่งห้ามเรือและเครื่องบินเข้าเขตน่านน้ำและน่านฟ้ารอบเกาะ
ขณะที่ทางการไต้หวันประเมินว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารมากกว่า 100,000 คนที่เดินทางโดยเครื่องบินเข้าและออกจากเกาะไต้หวัน
ด้านประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวัน ได้ออกมาประณามจีนที่ละเลยความคาดหวังของประชาคมโลกที่มีต่อสันติภาพ โดยกล่าวว่าจีนยังคงมุ่งมั่นที่จะทำลายเสถียรภาพในภูมิภาคผ่านการข่มขู่ทางทหาร