นายเวนิเซลอส ซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศด้วยนั้น กล่าวในการแถลงข่าวว่า "การต่อสู้ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญต่อทิศทางของประเทศในอีกหลายปีข้างหน้า มากกว่าประเด็นที่ว่าการที่ใครจะขึ้นมามีอำนาจ"
ผู้นำพรรคสังคมนิยมยังเน้นว่า "คำถามคือเราจะเดินหน้าต่อไปเพื่อออกจากวิกฤต บันทึกข้อตกลงและการกำกับดูแลของทรอยกาเพื่อไปสู่ความสัมพันธ์ใหม่ แล้วกลับสู่ตลาดการระดมทุนระหว่างประเทศและภาวะปกติ หรือว่าเราจะถอยหลังกลับไปและทำให้การเสียสละประชาชนชาวกรีซเป็นไปอย่างสูญเปล่า"
กรีซรอดพ้นจากภาวะล้มละลายเนื่องจากได้รับการช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ภายใต้โครงการช่วยเหลือทางการเงินที่จะสิ้นสุดลงในปลายเดือนก.พ.ปีนี้
หลังจากที่กรีซดำเนินการใช้แผนปฏิรูปและมาตรการรัดเข็มขัดอย่างเข้มงวด ประเทศเริ่มฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและค่อยๆกลับสู่ตลาดได้เมื่อปีที่แล้ว แต่ประชาชนชาวกรีซยังคงไม่ได้รับประโยชน์มากนักในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้ พรรครัฐบาลผสมซึ่งประกอบด้วยพรรคนิวเดโมเครซี (ND) และพรรค Pasok นำเสนอนโยบายที่รับรองเสถียรภาพและความก้าวหน้าของประเทศ ขณะที่พรรคไซรีซาซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายจัด มีแนวโน้มที่จะยุติมาตรการรัดเข็มขัด สำนักข่าวซินหัวรายงาน