นายฟิเดล รามอส อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เริ่มทริปเยือนจีนในวันนี้ ภายหลังจากที่เกิดความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศเป็นเวลานาน เนื่องจากคำร้องขออนุญาโตตุลากรของอีกฝ่ายในประเด็นทะเลจีนใต้ โดยการเดินทางเยือนของนายรามอสได้จุดประกายความหวังว่า ทั้ง 2 ประเทศจะหวนคืนสู่การเจรจาต่อรองระดับทวิภาคีในประเด็นนี้ได้
นายรามอส อาจจะเป็นทางเลือกทีดีที่สุดของการทะลายกำแพง นับตั้งแต่ที่นายรามอสได้รับการยอมรับในวงกว้างในประเทศและในเอเชีย การพบปะฉันท์มิตรอันยาวนานของนายรามอสกับจีนยังเป็นข้อได้เปรียบที่หาได้ยากในการช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่เย็นชาในระดับทวิภาคี
จีนได้ยืนกรานมาเป็นเวลานานแล้วในเรื่องการคลี่คลายข้อพิพาททะเลจีนใต้ว่าควรจะดำเนินการผ่านการเจรจาระดับทวิภาคี และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรจะหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวใดๆที่อาจจะทำให้เรื่องนี้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ภายใต้การบริหารของรัฐบาลอาควิโน หากไม่พิจารณาเรื่องข้อตกลงต่างๆที่มีก่อนหน้านี้ระหว่างฟิลิปปินส์และจีนแล้ว รัฐบาลชุดนี้ได้ผลักดันให้มีการยื่นอนุญาโตตุลากรที่ประสบความล้มเหลวในประเด็นความขัดแย้งกับจีนในเรื่องทะเลจีนใต้
กระบวนการที่ใช้เวลานานจากการตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการกรุงเฮกเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงไม่เพียงแต่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและฟิลิปปินส์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อแนวโน้มสันติภาพที่มีมาอย่างยาวนานในน่านน้ำที่แวดล้อมด้วยประเทศต่างๆในเอเชีย
ดังนั้น การที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ซึ่งได้เข้าพิธีสาบานตนไปเมื่อเร็วๆนี้ ได้เลือกที่จะตีตนออกจากอนุญาโตตุลาการ จึงเป็นเรื่องที่คลายความกังวลอย่างแท้จริง และยังชี้ให้เห็นถึงท่าทีที่เป็นบวกต่อจีนด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ การยื่นเรื่องต่ออนุญาโตตุลากรของทางการฟิลิปปินส์นั้นจึงเป็นเรื่องของการใช้กฎหมายระหว่างประเทศในทางที่ไม่ถูกต้องและยังเป็นการตัดสินที่มีอคติในประเด็นที่ไม่ควรจะส่งผลต่อการเจรจาระดับทวิภาคีเรื่องทะเลจีนใต้ในอนาคตระหว่างจีนและฟิลิปปินส์
การเดินทางเยือนของนายรามอส ซึ่งชี้ให้เห็นถึงย่างก้าวแรกที่เป็นรูปธรรมของทางฟิลิปปินส์ในการมีส่วนร่วมในการเจรจาระดับทวิภาคีกับจีนในประเด็นทะเลจีนใต้ ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากใหม่ของการคลี่คลายข้อพิพาท
แต่การหวนคืนสู่การหาข้อยุตินั้นขึ้นอยู่กับความจริงใจของทางฟิลิปปินส์ด้วยเช่นกัน ผู้ตัดสินใจของฟิลิปปินส์ควรจะรับรู้ว่า ความสัมพันธ์ที่เปราะบางกับจีนนี้ ไม่ควรยิ่งที่จะได้รับผลกระทบอีกครั้ง
หวาง ไห่ชิง สำนักข่าวซินหัวรายงาน