รัฐบาลมาเลเซียได้เรียกนายเซียน อู เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำมาเลเซียเข้าพบ เพื่อแสดงความรู้สึกไม่พอใจต่อสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ ซึ่งส่งผลให้ชาวโรฮิงญาจำนวนมากต้องอพยพข้ามเขตแดนไปบังกลาเทศ
กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียระบุในแถลงการณ์ว่า นายเซียน อู เอกอัครราชทูตเมียนมาถูกเรียกให้มารายงานตัวที่กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย เพื่อรับฟังจุดยืนของรัฐบาลมาเลเซีย
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่นายอานีฟา อามาน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียได้ร่วมหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านและตุรกีผ่านทางโทรศัพท์ เกี่ยวกับสถานการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับชาวมุสลิมโรฮิงญา และทุกฝ่ายต่างเห็นด้วยว่า องค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ซึ่งเป็นองค์กรอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในโลก ควรจัดประชุมวาระพิเศษเกี่ยวกับประเด็นนี้
ข้อมูลจาก UNCHR ระบุว่า ณ สิ้นเดือนมิ.ย. มีผู้ลงทะเบียนเป็นผู้อพยพและผู้ลี้ภัยประมาณ 149,200 รายที่สำนักงานในประเทศมาเลเซีย ซึ่งในนั้นมีผู้ลี้ภัย 132,500 รายมาจากเมียนมา และในจำนวนดังกล่าวรวมถึงชาวโรฮิงญา 59,100 ราย
ทั้งนี้ ความรุนแรงในรัฐยะไข่ของเมียนมาเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 25 ส.ค. จากการที่ชาวโรฮิงญาได้ลุกฮือโจมตีสถานีตำรวจ ด่านรักษาความมั่นคง รวม 30 แห่ง และฐานทัพทหาร 1 แห่ง ส่งผลให้ทางการเมียนมาทำการตอบโต้ชาวโรฮิงญาอย่างรุนแรง โดยมองว่าเป็นปฏิบัติการเพื่อกวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 400 คน และทำให้ชาวโรฮิงญากว่า 100,000 คนต้องอพยพไปยังบังกลาเทศ