Commentary: สื่อจีนตั้งคำถามการเดินทางเยือนจีนครั้งแรกของ "ทรัมป์"

ข่าวการเมือง Friday October 6, 2017 10:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ในขณะที่จีนและสหรัฐเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางเยือนจีนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐในปีนี้ แน่นอนว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้จะเป็นวาระพิเศษสำหรับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่สำคัญที่สุดของโลก

การเดินทางเยือนจีนในช่วงสั้นๆของนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่สิ้นสุดลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น รมว.ต่างประเทศสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้หารือถึงเรื่องการเดินทางเยือนจีนของทรัมป์ในช่วงเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้

ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่า การเดินทางเยือนจีนของทรัมป์ถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในส่วนของความสัมพันธ์จีนและสหรัฐ และทีมงานของทั้ง 2 ฝ่ายควรจะร่วมงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเดินทางเยือนครั้งนี้มีความพิเศษและประสบผลสำเร็จ

อันที่จริงๆแล้ว การเดินทางเยือนจีนของทรัมป์ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ เพราะจะเกิดขึ้นภายหลังการประชุมประจำปีครั้งที่ 19 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเสร็จสิ้นไปเพียงไม่กี่วัน

การประชุมที่จะเกิดขึ้นของสี จิ้นผิง และโดนัลด์ ทรัมป์นั้น จะเป็นการประชุมครั้งที่ 3 ของผู้นำทั้ง 2 ประเทศในปีนี้ โดยการประชุมก่อนหน้านี้จัดขึ้นที่รัฐฟลอริด้าเมื่อเดือนเม.ย. และที่เมืองฮัมเบอร์ก เยอรมนี เมื่อเดือนก.ค. ซึ่งการประชุมดังกล่าว สีและทรัมป์ ได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี

นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค. ผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้คงไว้ซึ่งการติดต่อหารือที่ใกล้ชิดในประเด็นที่สองฝ่ายมีความกังวลร่วมกัน ซึ่งรวมถึงเรื่องนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี

ที่ผ่านมา ผู้นำทั้ง 2 ประเทศยังได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ 8 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นประวัติการณ์สำหรับทั้ง 2 ประเทศ

การสื่อสารบ่อยครั้งระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศถือเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง เนื่องจากการสื่อสารเหล่านี้ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด และยังช่วยบริหารจัดการความแตกต่างได้อย่างราบรื่น ตลอดจนเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความร่วมมือระดับทวิภาคี

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า มหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกทั้ง 2 ประเทศนี้ จะต้องมาเผชิญหน้ากันในทุกๆเรื่อง ด้วยเหตุนี้ การเจรจาต่อรองจึงเป็นกุญแจในการรับมือกับความเห็นที่แตกต่างกันและความขัดแย้งได้อย่างเหมาะสม เพราะการเจรจาแบบนี้จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเคารพในผลประโยชน์หลักซึ่งกันและกัน

ประธานาธิบดีสี มองว่า ผลประโยชน์ร่วมของทั้ง 2 ประเทศนั้น มีค่ามากกว่าความเห็นที่แตกต่างกันของทั้ง 2 ฝ่าย และความร่วมมือกันเป็นเพียงทางเลือกที่ถูกต้องเท่านั้น

เมื่อปีที่แล้ว จีนและสหรัฐได้ผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในด้านความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี ผ่านกลไกการเจรจาระดับสูง 4 ด้าน ได้แก่ การทูตและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน การบังคับใช้กฎหมายและความปลอดภัยทางไซเบอร์

หากมองไปข้างหน้าแล้ว ยังมีอีกหลายประเด็นที่ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือกันต่อไปได้ ไม่เพียงแต่เฉพาะระดับทวิภาคีเท่านั้น แต่ยังเป็นการร่วมมือในระดับภูมิภาคและสากลด้วยเช่นกัน การค้า การลงทุน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศนั้น ถือเป็นตัวอย่างได้

การเดินทางเยือนของทรัมป์ จะนำมาซึ่งโอกาสที่ผู้นำทั้ง 2 ประเทศจะได้ทบทวนความสำเร็จของความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ ตลอดจนการกำหนดอนาคตของความสัมพันธ์ขั้นต่อไป

การเดินทางเยือนจีนของประธานาธิบดีสหรัญยังถูกตั้งความหวังว่า จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งจุดยืนที่ดีขึ้นของทั้ง 2 ประเทศในการร่วมมือกันรับมือกับความท้าทายในโลกใบนี้

ความร่วมมือจึงถือเป็นผลประโยชน์ของทั้งจีนและสหรัฐ ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งไม่เพียงจะนำมาซึ่งประโยชน์แก่ทั้ง 2 ประเทศ แต่ยังเป็นประโยชน์กับทั่วโลกด้วยเช่นกัน

บทวิเคราะห์โดย ฉี เสี่ยงเหมง

สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ