รัสเซียออกโรงตอบโต้การตัดสินใจของสหรัฐที่จะขายอาวุธร้ายแรงให้กับยูเครน โดยกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า การตัดสินใจดังกล่าวจะนำไปสู่การนองเลือดครั้งใหม่
"รัฐบาลสหรัฐกำลังพยายามทำตัวเป็นคนกลาง แต่จริงๆ แล้ว สหรัฐคือผู้สมคบคิดในการปลุกปั่นให้เกิดสงคราม" เซอร์กี รียับคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว พร้อมกับเสริมว่า มีโรคกลัวรัสเซีย หรือ Russophobia เกิดขึ้นในหมู่นักการเมืองสหรัฐ
แถลงการณ์ตอบโต้ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงในวันศุกร์ว่า รัฐบาลสหรัฐจะขายอาวุธขั้นสูงให้กับยูเครน เพื่อช่วยปรับปรุงขีดความสามารถในการป้องกันประเทศให้ทันสมัย ซึ่งรวมถึงจรวดทำลายรถถัง Javelin ซึ่งยูเครนอยากได้มากนาน
ทั้งนี้ ยูเครนได้เปิดปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อเดือนเม.ย. 2557 หลังจากประชาชนที่สนับสนุนรัสเซียปฏิเสธที่จะให้การยอมรับทางการยูเครนและพยายามที่จะแยกตัวเป็นเอกราช ซึ่งนับตั้งแต่นั้น การต่อสู้ในดอนบาสได้คร่าชีวิตประชาชนกว่า 10,000 คน
รัฐบาลยูเครนและกลุ่มต่อต้านได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพในกรุงมินสก์ เมื่อเดือนก.ย. 2557 โดยมีรัสเซีย ฝรั่งเศส และเยอรมนีเป็นคนกลาง ก่อนที่จะมีการลงนามในข้อตกลงฉบับใหม่ที่มีรายละเอียดเพิ่มเติม ในเดือนก.พ. 2558
ข้อตกลงสันติภาพดังกล่าวครอบคลุมถึงการหยุดยิง การถอนอาวุธหนักออกจากเส้นแบ่งระหว่างคู่สงครามสองฝ่าย การแลกเปลี่ยนนักโทษ และการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นในดอนบาส
อย่างไรก็ตาม ได้มีการทำผิดสัญญาเป็นบางครั้ง โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าเป็นฝ่ายละเมิด