"ทิลเลอร์สัน" เตรียมลงจากตำแหน่งรมว.ตปท.สหรัฐสิ้นเดือนมี.ค.นี้ ก่อนส่งไม้ต่อให้ "ปอมเปโอ"

ข่าวการเมือง Wednesday March 14, 2018 10:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ซึ่งกำลังหมดวาระการทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ จะออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มี.ค.นี้ พร้อมกับให้คำมั่นว่า จะดูแลให้การเปลี่ยนตัวผู้ที่จะมาทำหน้าที่รัฐมนตรี ซึ่งก็คือ นายไมค์ ปอมเปโอ รับตำแหน่งต่อไปอย่างเป็นระบบและราบรื่น

นายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) เป็นบุคคลที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกให้เข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรีต่างประเทศแทนนายทิลเลอร์สัน

นายทิลเลอร์สันกล่าวกับสื่อว่า "สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือ การทำให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างเป็นระบบและราบรื่นในช่วงที่สหรัฐกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านกฎหมายและความมั่นคงของชาติ" ในขณะที่สหรัฐกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกภายในเดือนพ.ค.นี้

คำพูดของนายทิลเลอร์สันเกิดขึ้น หลังจากที่ทรัมป์ปลดนายทิลเลอร์สันออกจากตำแหน่งและให้นายปอมเปโอเข้ามารับตำแหน่งแทน หลังจากที่นายทิลเลอร์สันและนายทรัมป์มีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์และวิธีการดำเนินการกับเกาหลีเหนือ

"เมื่อพิจารณาข้อตกลงกับอิหร่านแล้ว ผมมองว่าเป็นสิ่งที่แย่มาก ซึ่งผมเดาว่าท่านรัฐมนตรีคงมองว่าโอเค แต่ผมต้องการที่จะยกเลิกหรือกระทำอะไรบางอย่างกับข้อตกลงนั้น ในขณะที่ท่านรัฐมนตรีมีความคิดที่ค่อนข้างแตกต่างจากผม" ทรัมป์กล่าวโดยพูดถึงนายทิลเลอร์สัน "ดังนั้น เราจึงมีความคิดที่ไม่ค่อยจะเหมือนกันจริงๆ"

นายปอมเปโอ ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนการใช้นโยบายสายเหยี่ยวต่ออิหร่าน ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าว และเมื่อดูจากคำแนะนำของนายปอมเปโอในปีที่แล้วที่ได้เสนอให้รัฐบาลสหรัฐพิจารณาตั้งเป้าเปลี่ยนแปลงการปกครองในเกาหลีเหนือ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศหลายรายมองว่า ต่อจากนี้สหรัฐอาจมีท่าทีที่แข็งกร้าวกับเกาหลีเหนือมากขึ้น

นักวิเคราะห์เชื่อว่า การแต่งตั้งให้นายปอมเปโอเข้าดำรงตำแหน่งจะทำให้การแสดงจุดยืนเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐแสดงจุดยืนที่แตกต่างกันในหลายๆ ประเด็น เช่น การแสดงจุดยืนต่อโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ