อิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับโครงการขีปนาวุธของที่ประชุมผู้นำชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ว่า "เป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ระหว่างการประชุมสุดยอดซึ่งจัดที่กรุงบรัสเซลเมื่อวานนี้ บรรดาผู้นำชาติสมาชิก NATO ได้แสดงความกังวลกันถึงการกระทำของอิหร่านซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงการทดสอบขีปนาวุธที่มีความรุนแรง ตลอดจนวิถีกระสุนและความแม่นยำของขีปนาวุธนำวิถีในอิหร่าน
นายบาห์ราม คาเซมี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านออกมาเปิดเผยว่า "เราได้เฝ้าติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นในการประชุมครั้งนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมและการกดดันของสหรัฐต่อสมาชิก NATO นับเป็นเรื่องน่าประหลาดที่บางประเทศและคนบางคนยังคงยืนกรานซ้ำไปซ้ำมาในข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง"
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านยังตอบโต้ถึงการที่ผู้นำ NATO เตือนให้อิหร่านให้ความร่วมมือกับสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) โดยกล่าวว่า IAEA ซึ่งเป็นหน่วยงานระหว่างประเทศเพียงหนึ่งเดียวที่มีอำนาจในประเด็นเรื่องอาวุธนิวเคลียร์นั้น ได้ออกมายืนยันถึงความปกติของโครงการนิวเคลียร์อิหร่านมาโดยตลอด
เขากล่าวว่า "ความกังวลของชาติสมาชิก NATO เรื่องโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน เป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง"
ทั้งนี้ คาเซมียืนยันว่า โครงการขีปนาวุธของอิหร่านเป็นการป้องกันตนเองที่ปกติและธรรมดามาก และอิหร่านก็เป็นเหมือนประเทศเอกราชอื่นๆ ซึ่งมีสิทธิ์ที่จะมีโครงการป้องกันตนเอง
โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านระบุว่า นโยบายของอิหร่านสนับสนุนความร่วมมือและการเจรจาภายในภูมิภาคและระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเสริมอีกว่า "อิหร่านเชื่อว่าไม่มีวิกฤติการณ์ใดๆในภูมิภาคนี้ที่จำเป็นต้องแก้ไขด้วยวิธีการทางทหาร"