สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทผู้จัดจำหน่ายน้ำมันรายใหญ่ของญี่ปุ่กำลังพิจารณาระงับการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ตามคำเรียกร้องของสหรัฐ
สหรัฐได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ และบริษัทน้ำมัน ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร โดยวันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. ซึ่งจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
ทั้งนี้ บริษัทผู้จัดจำหน่ายน้ำมันของญี่ปุ่นวางแผนที่จะชดเชยปริมาณน้ำมันที่ลดลง ด้วยการหันไปซื้อน้ำมันจากกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง อาทิเช่น ซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากอาจมีการเริ่มระงับการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านในช่วงปลายเดือนต.ค.
ส่วนในฝั่งของผู้บริโภคนั้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวหมายถึงราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันประเภทอื่นๆที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีปริมาณต้นทุนการจัดซื้อที่สูงขึ้น
การระงับการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า การทำธุรกรรมจะมีความยากลำบากมากขึ้น เนื่องจาก ธนาคารรายใหญ่ อาทิเช่น ธนาคารโตเกียว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ และธนาคารมิซูโฮ กำลังพิจารณาระงับดำเนินการทางธรุกิจที่เกี่ยวข้องกับอิหร่าน หลังจากสหรัฐตัดสินใจใช้มาตรการคว่ำบาตารต่ออิหร่าน
อย่างไรก็ดี เนื่องจากญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่มีเสถียรภาพกับอิหร่านมาโดยตลอด น้ำมันดิบจากอิหร่านจึงมีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ