"ทรัมป์" ฉะรมว.ยุติธรรม เชื่อจงใจตั้งข้อหา 2 ส.ส.รีพับลิกันเอื้อเลือกตั้งกลางเทอม

ข่าวการเมือง Tuesday September 4, 2018 09:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งอยู่ในสังกัดพรรครีพับลิกัน ได้วิพากษ์วิจารณ์นายเจฟฟ์ เซสชันส์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อคืนนี้ โดยปธน.ทรัมป์เชื่อว่า นายเซสชันส์จงใจตั้งข้อหาส.ส.พรรครีพับลิกัน 2 ราย ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมเดือนพ.ย.นี้ เพื่อไม่ให้ทั้งสองได้รับการเลือกตั้งให้ขึ้นดำรงตำแหน่งต่อ

ปธน.ทรัมป์ระบุในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า การตั้งข้อหาดังกล่าวจะขัดขวางไม่ให้ส.ส.พรรครีพับลิกันสามารถคว้าเก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎรที่ลอยลำมาอยู่แล้ว โดยไม่ได้มีการระบุชื่อส.ส.ที่ถูกตั้งข้อหาในครั้งนี้

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้น 435 คน ปัจจุบันพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอยู่ที่ 236 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเดโมแครตมี 193 ที่นั่ง และยังมีเก้าอี้ว่างอยู่อีก 6 ที่ โดยนักวิเคราะห์มองว่า การเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมีขึ้นวันที่ 6 พ.ย.นี้ มีโอกาสที่พรรคเดโมแครตจะเข้ามาคุมสภาผู้แทนฯอยู่ราว 50%

สำหรับส.ส.พรรครีพับลิกันที่ถูกตั้งข้อหาเมื่อไม่นานมานี้ หนึ่งในนั้นคือนายคริส คอลลินส์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐสังกัดพรรครีพับลิกันของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยเขาถูกตั้งข้อหาทำการซื้อขายหุ้นโดยใช้ข้อมูลภายใน

เอกสารคำฟ้องของคณะลูกขุนระบุว่า ในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว นายคอลลินส์ ซึ่งเป็นกรรมการคนหนึ่งในบอร์ดบริหารของบริษัทอินเนท อิมมูโนเธราพูติกส์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของออสเตรเลีย ได้โทรศัพท์แจ้งนายคาเมรอน คอลลินส์ บุตรชายของเขา เกี่ยวกับข้อมูลที่ว่ายาของบริษัทอินเนทไม่ผ่านการทดสอบของทางการสหรัฐ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นข้อมูลลับ และไม่สามารถแจ้งต่อสาธารณชน โดยนายคอลลินส์ได้แจ้งให้บุตรชายขายหุ้นของบริษัท รวมทั้งให้เปิดเผยข้อมูลนี้แก่บุคคลอื่น ส่งผลให้นายคาเมรอนขายหุ้นของอินเนท และเขายังได้ส่งข้อมูลดังกล่าวให้แก่นายสตีเฟน ซาร์สกี ซึ่งเป็นบิดาคู่หมั้นของเขา รวมทั้งบุคคลอื่นอีกหลายคน

คำฟ้องระบุว่า การกระทำดังกล่าวของนายคอลลินส์ นายคาเมรอน และนายซาร์สกีทำให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงการขาดทุนจำนวน 768,000 ดอลลาร์ที่อาจเกิดขึ้น ถ้าหากพวกเขาไม่ได้ขายหุ้นออกไป ก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลการทดสอบยาของบริษัทอินเนทแก่สาธารณชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ