นางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมพบนายร็อด โรเซนสไตน์ รมช.ยุติธรรมสหรัฐ ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากมีกระแสข่าวว่านายโรเซนสไตน์ได้ลาออกจากตำแหน่งในวันนี้
"ท่านประธานาธิบดีได้พูดคุยกับคุณโรเซนสไตน์เพื่อหารือเกี่ยวกับรายงานข่าวที่เกิดขึ้น" นางแซนเตอร์สกล่าว
"เนื่องจากท่านประธานาธิบดีขณะนี้กำลังเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ และมีกำหนดพบปะกับผู้นำจากทั่วโลก ท่านประธานาธิบดีและคุณโรเซนสไตน์ก็จะพบกันในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่ท่านประธานาธิบดีกลับมายังกรุงวอชิงตันดี.ซี." โฆษกทำเนียบขาวกล่าว
Axios ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวในสหรัฐ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า นายโรเซนสไตน์ได้ลาออกจากตำแหน่งในวันนี้
ทางด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทำเนียบขาวได้ยอมรับหนังสือลาออกของนายโรเซนสไตน์แล้ว
อย่างไรก็ดี กระแสข่าวการลาออกของนายโรเซนสไตน์ยังคงมีความสับสน โดยสำนักข่าวหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงเอ็นบีซี นิวส์ รายงานว่า นายโรเซนสไตน์จะไม่ลาออกเอง โดยเขาจะออกจากตำแหน่งก็ต่อเมื่อทำเนียบขาวมีคำสั่งปลดเขาออก
ทั้งนี้ การลาออกจากตำแหน่งของนายโรเซนสไตน์จะส่งผลกระทบต่อนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อัยการพิเศษที่ทำหน้าที่สืบสวนความเกี่ยวพันระหว่างรัสเซียและคณะหาเสียงของปธน.ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 รวมทั้งการสอบสวนปธน.ทรัมป์ในข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
นายโรเซนสไตน์เป็นผู้แต่งตั้งนายมูลเลอร์ให้ทำการสอบสวนดังกล่าว และนายโรเซนสไตน์ยังเสนอให้เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมบันทึกเสียงคำให้การของปธน.ทรัมป์ในทุกกรณี เพื่อใช้เป็นหลักฐานซึ่งจะนำไปสู่การถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง
นายแลร์รี่ แมคโดนัลด์ เจ้าของรายงาน Bear Traps Report ระบุว่า การลาออกของนายโรเซนสไตน์จะสร้างปัญหาต่อพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพ.ย.