หน่วยงานป้องกันชายแดนสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอลี้ภัยในสหรัฐพุ่งขึ้นถึง 2 เท่าในปีงบฯ 2561

ข่าวการเมือง Tuesday December 11, 2018 15:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หน่วยงานศุลกากรและการป้องกันแนวชายแดนของสหรัฐ (CBP) เปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอลี้ภัยในสหรัฐประจำปีงบประมาณ 2561 พุ่งขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบเป็นรายปี

ในปีงบประมาณ 2561 ซึ่งสิ้นสุดในเดือนก.ย.ที่ผ่านมานั้น มีผู้อพยพขอสถานะลี้ภัยในสหรัฐ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองบริเวณชายแดนทางตอนใต้ของประเทศอยู่ที่ 38,269 ราย ในขณะที่ปีงบประมาณ 2560 มีผู้ขอลี้ภัยทั้งสิ้น 17,284 ราย

ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้อพยพที่พยายามข้ามเขตแดนเข้าสหรัฐอย่างผิดกฎหมายก่อนขอลี้ภัยอยู่ที่ 54,690 รายในปีงบประมาณ 2561 หรือคิดเป็นสัดส่วน 14% ของผู้อพยพข้ามชายแดนแบบผิดกฎหมายทั้งหมด ส่วนในปี 2560 ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 38,300 หรือ 13% ของจำนวนผู้อพยพข้ามชายแดนผิดกฎหมายทั้งหมด

เจ้าหน้าที่ CBP เปิดเผยกับสำนักข่าว USA Today โดยไม่ประสงค์ออกนามว่า ตัวเลขที่เปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าจะมีผู้อพยพอีกจำนวนมากที่จะพยายามอพยพเข้าสหรัฐโดยการขอลี้ภัย พร้อมกล่าวด้วยว่า หน่วยงานของเขาไม่สามารถรับมือกับจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นได้

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า CBP มีความจำเป็นจะต้องให้ผู้อพยพต่อคิวและรอคอยในบริเวนณชายแดนฝั่งเม็กซิโกเป็นเวลาหลายวันและหลายสัปดาห์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยให้คำมั่นว่าจะสร้างกำแพงกั้นเขตแดนสหรัฐ-เม็กซิโกในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

ส่วนเมื่อไม่นานมานี้ ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวหากลุ่มผู้อพยพที่มาจากประเทศต่างๆในอเมริกากลางว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในสหรัฐ นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้สั่งระดมกองกำลังป้องกันประเทศ ลงพื้นที่เพื่อปกป้องเขตแดนทางตอนใต้ของสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ