นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) และนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้พยายามที่จะแก้ไขภาวะชะงักงันเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในการประชุมเมื่อวานนี้ แต่ผลการประชุมดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งก็เป็นไปตามคาด โดยนายยุงเกอร์และนางเมย์ได้ยืนยันที่จะเจรจากันอีกครั้งก่อนสิ้นเดือนนี้
แถลงการณ์ร่วมที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ EC ระบุว่า ผู้นำทั้งสองได้หารือกันเกี่ยวกับนโยบาย backstop ซึ่งเป็นนโยบายในการค้ำประกันว่า จะไม่มีการกลับไปใช้มาตรการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวดระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป และจะให้การรับรองทางกฎหมายที่เหมาะสมกับทั้งสองฝ่าย
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า นายยุงเกอร์และนายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นที่จะหลีกเลี่ยงยุค Hard Border หรือพรมแดนที่มีการตั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านตรวจศุลกากรบนเกาะไอร์แลนด์ และเคารพความเป็นเอกภาพของตลาดภายในสหภาพยุโรป (EU) และของสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงทางเลือกที่สามารถนำมาแทนที่นโยบาย backstop ในอนาคต รวมถึงการหารือว่าการเพิ่มเติมหรือการเปลี่ยนแปลงต่อแถลงการณ์ทางการเมืองนั้น จะสามารถกระทำได้หรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานะของกันและกัน รวมทั้งการเพิ่มความเชื่อมั่นต่อการให้ความสำคัญและความพยายามในการสนับสนุนความร่วมมือในอนาคตโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นางเมย์เดินทางถึงกรุงบรัสเซลส์เวลาประมาณ 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันพุธ (เที่ยงคืนวานนี้ตามเวลาไทย) โดยการเดินทางครั้งล่าสุดของนางเมย์เกิดขึ้น หลังจากนายสตีเฟน บาร์เคลย์ รัฐมนตรีด้านกิจการ Brexit ได้แถลงต่อคณะรัฐมนตรีอังกฤษเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาของเขากับนายมิเชล บาร์นิเยร์ ผู้แทนเจรจาของ EU ซึ่งแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบาย backstop