นักวิชาการชี้ สหรัฐตัดสินใจเก็บภาษีนำเข้าจากจีน ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง

ข่าวการเมือง Sunday May 12, 2019 16:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจอน เทย์เลอร์ ศาสตราจารย์ด้านการเมืองจากมหาวิทยาลัยเซนต์โทมัสในฮูสตัน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า การที่สหรัฐตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าทั้งหมดจากจีน หลังจากที่การเจรจาการค้าเสร็จลงเพียงไม่นาน ยิ่งทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดมากขึ้น แทนที่จะเป็นไปในทิศทางที่ดีกว่านี้

นายเทย์เลอร์กล่าวว่า คำขู่ว่าจะฉีกข้อตกลงและเรียกเก็บภาษีมากขึ้นไม่ใช่กลยุทธ์ที่ควรถูกนำมาใช้บนโต๊ะเจรจา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศที่เป็นหนึ่งในมหาอำนาจชั้นนำของโลก

การแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อวันศุกร์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ เริ่มกระบวนการเก็บภาษีนำเข้าครั้งใหม่ต่อสินค้านำเข้าที่เหลือทั้งหมดจากจีนซึ่งมีมูลค่าราว 3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้จีนออกมาประกาศว่าเสียใจอย่างยิ่งต่อตัดสินใจดังกล่าว และถูกบังคับให้ต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ด้วยความจำเป็น

นายเทย์เลอร์กล่าวว่า หากมองในฝั่งจีน การที่สหรัฐออกมาเคลื่อนไหวเช่นนั้น จะยิ่งทำให้พวกเขาไม่ยอมอ่อนข้อให้กับการเจรจาที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเท่าเทียม

เทย์เลอร์ระบุว่า ตลอดเวลาที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากทางสหรัฐ จีนก็มักจะออกมาย้ำอยู่เสมอๆว่า การเก็บภาษีจากพวกเขามากขึ้นนั้นไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา แต่หนทางเดียวที่จะทำให้ปัญหาเหล่านี้จบลงก็คือการหันมาร่วมมือและปรึกษาหารือด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน

เขาเสริมว่า "จีนได้แสดงความยับยั้งชั่งใจและอดทนอดกลั้น" ในระหว่างการเจรจาการค้ากับสหรัฐมาโดยตลอด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ