ม็อบฮ่องกงเดือดอีกครั้ง หลังผู้ประท้วงปะทะตำรวจเมื่อคืนนี้

การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงกลายเป็นเหตุการณ์รุนแรงอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เมื่อเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจ โดยผู้ประท้วงได้ปิดกั้นถนนหลายสายและขว้างปาระเบิดอยู่บริเวณด้านนอกอาคารที่ทำการของรัฐบาลฮ่องกงในช่วงค่ำวานนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่ขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ รวมถึงสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของทางการ

เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงเปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ประท้วงบางรายได้เริ่มเข้าจู่โจมแถวของตำรวจที่ล้อมบริเวณทางเข้าศูนย์บัญชาการของรัฐบาล และยิงลำแสงเลเซอร์เข้าใส่ตำรวจ รวมถึงยิงไปยังเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งนับว่าเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้ที่อยู่ในสถานที่ดังกล่าว

จากนั้นในเวลาประมาณ 19.30 น. กลุ่มผู้ประท้วงขนาดใหญ่ได้กีดขวางทางเดินรถในบริเวณ Harcourt Road ทำให้การจราจรเป็นอัมพาต

ขณะที่มีรายงานว่า ชายในเสื้อยืดสีขาวคนหนึ่งถูกรุมประชาทัณฑ์ใน Tamar Park หลังจากที่เขาร้องตะโกนว่า "ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีนตลอดไป" ในภาษาจีนกลาง โดยคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นภาพชายคนดังกล่าวถูกฉุดกระชากจนลงไปกองอยู่ที่พื้น และถูกทุบตี ถูกเตะโดยกลุ่มคนใส่ชุดดำที่ตะโกนว่า "ไปลงนรกซะ" จนกระทั่งชายเสื้อขาวหัวแตกและใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด

ตำรวจฮ่องกงได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า หลังจากที่ออกคำเตือนผู้ชุมนุมซ้ำแล้วหลายครั้ง ทางเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้กำลังเพื่อสลายการชุมนุม

ขณะที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติ (LegCo Secretariat) ได้ออกประกาศเตือนสีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และขอให้ทุกคนออกจากบริเวณ LegCo ในทันที

จากนั้นในเวลาประมาณ 20.45 น. ทางตำรวจได้ฉีดน้ำสีฟ้าเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งขว้างปาก้อนอิฐเข้าใส่ตำรวจและขว้างระเบิดเข้าไปที่อาคารที่ทำการรัฐบาล

ด้านหน่วยงานจราจรเผยว่า เส้นทางเดินรถโดยสารประจำทางหลายเส้นถูกระงับบริการ หรือมีการเปลี่ยนเส้นทาง หลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงได้วางสิ่งของกีดขวางเต็มถนน

ทั้งนี้ รัฐบาลฮ่องกงได้ออกแถลงการณ์ในคืนวันเสาร์ ประณามเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นรอบๆ ศูนย์บัญชาการของรัฐบาล