ทรัมป์วีโต้ร่างกม.ความมั่นคงแห่งชาติ แม้สภาคองเกรสสกัดการใช้สิทธิ์ได้

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 24, 2020 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ใช้สิทธิ์วีโต้เพื่อไม่ให้มีการบังคับใช้ร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (National Defense Authorization Act หรือ NDAA) สำหรับปีงบประมาณ 2564 แม้ร่างกฎหมายดังกล่าวได้คะแนนเสียงสนับสนุนมากพอในสภาคองเกรสในระดับที่สกัดการใช้สิทธิ์วีโต้ได้

ก่อนหน้านี้ปธน.ทรัมป์ยืนยันว่าเขาจะใช้สิทธิ์วีโต้ เพื่อไม่ให้มีการบังคับใช้กฎหมายมูลค่า 7.41 แสนล้านดอลลาร์ฉบับนี้ โดยสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภาสหรัฐ จะต้องสกัดการใช้สิทธิ์วีโต้ดังกล่าวเพื่อให้บังคับใช้กฎหมายนี้ได้

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 335 ต่อ 78 เสียง ผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงดังกล่าว ขณะที่วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 84 ต่อ 13 เสียง ให้ผ่านร่างกฎหมายนี้ด้วยเช่นกัน นับว่ามากพอที่จะสามารถสกัดการใช้สิทธิ์วีโต้ของปธน.ทรัมป์ได้เพราะถึง 2 ใน 3

การใช้สิทธิ์วีโต้ของปธน.ทรัมป์ในครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เพราะร่างกม.ความมั่นคงแห่งชาติไม่มีใครวีโต้มาเกือบ 60 ปีแล้ว

ปธน.ทรัมป์ ระบุในแถลงการณ์ถึงสภาคองเกรสเพื่อแจ้งการใช้สิทธิ์วีโต้ว่า "ผมขอส่งคืนร่างกฎหมาย H.R. 6395 โดยผมไม่อนุมัติ ... รัฐบาลของผมเล็งเห็นความสำคัญที่ร่างกฎหมายนี้มีต่อความมั่นคงของชาติ"

ปธน.ทรัมป์ ระบุว่า "น่าเสียดายที่ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่มีการพูดถึงเรื่องมาตรการรักษาความมั่นคงของชาติที่สำคัญ มีบทบัญญัติที่ไม่เอาใจใส่ทหารผ่านศึกและประวัติศาสตร์กองทัพสหรัฐ ทั้งยังขัดต่อความพยายามของรัฐบาลภายใต้การนำของผมเพื่อผลักดันให้อเมริกามาก่อนในการดำเนินการด้านความมั่นคงของชาติและนโยบายต่างประเทศ"

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้คัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะให้เงินสนับสนุนกองทัพสหรัฐไปจนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า เพราะไม่มีบทบัญญัติในการยกเลิกหรือ "ปรับเปลี่ยนส่วนสำคัญ" ในมาตรา 230 ของกฎหมายว่าด้วยการสื่อสารที่เหมาะสม ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้การคุ้มครองทางกฎหมายแก่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก โดยปธน.ทรัมป์อ้างว่าบริษัทเหล่านี้ใช้กฎหมายมาตราดังกล่าวในการปราบปรามการแสดงความคิดเห็นในทางอนุรักษ์นิยม

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สภาผู้แทนฯ สหรัฐเตรียมลงคะแนนโหวตเพื่อยกเลิกสิทธิ์วีโต้ของปธน.ทรัมป์ในวันจันทร์หน้าตามเวลาสหรัฐ และวุฒิสภาจะเปิดโหวตในวันอังคาร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ