ยูเครนได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสในการเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย โดยนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (10 มี.ค.) ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสกำลังพยายามไกล่เกลี่ยแบบ "ลอย ๆ" ไม่ลงมือจริง ขณะที่นายดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศยูเครนกล่าวว่ายูเครนจะไม่มีวันยอมจำนน
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงตรัสว่า เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในความขัดแย้งกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้าย มันถึงเวลาที่จะต้อง "ยกธงขาวอย่างกล้าหาญ" และดำเนินการเจรจา โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่พระองค์เน้นใช้คำเช่น ธงขาว หรือ การพ่ายแพ้ ระหว่างที่ตรัสถึงสงครามยูเครน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะทรงเคยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเจรจามาก่อนก็ตาม
นายเซเลนสกีไม่ได้อ้างถึงสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสหรือความเห็นของพระองค์โดยตรง แต่ได้เน้นย้ำถึงการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญทางศาสนาในยูเครน
"พวกเขาสนับสนุนเราด้วยการอธิษฐาน การอภิปราย และการกระทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่คริสตจักรจริง ๆ สมควรทำ ... ในขณะที่ห่างออกไป 2,500 กิโลเมตร ณ ที่ใดสักแห่ง มีการเสนอให้ไกล่เกลี่ยแบบลอย ๆ ระหว่างผู้คนที่อยากมีชีวิตอยู่กับผู้คนที่จ้องต้องการทำลายคุณ" นายเซเลนสกีกล่าว
ด้านนายคูเลบา กล่าวผ่านเอ็กซ์ (X) ว่า ในความขัดแย้งใด ๆ ก็ตาม ฝ่ายที่เข้มแข็งควรยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง แทนที่จะพยายามจับทั้งสองฝ่ายมาอยู่บนจุดยืนเดียวกัน และเรียกสิ่งนั้นว่าการเจรจา
นายคูเลบา กล่าวว่า "ธงที่เราจะยกคือธงสีเหลืองและน้ำเงิน" ซึ่งหมายถึงธงชาติยูเครน และเสริมว่า "นี่คือธงที่เรามีชีวิตอยู่ ล้มตาย และยืนหยัด และเราจะไม่มีวันชักธงอื่นใดอีก"
นายคูเลบายังได้ยกข้อกล่าวหาที่ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ทรงล้มเหลวในการต่อต้านนาซีเยอรมนี ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย
"ผมขอเรียกร้องให้วาติกันหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในอดีต และสนับสนุนยูเครนและประชาชนของยูเครนในการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของพวกเขา" นายคูเลบา ระบุ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นอกจากยูเครนแล้ว พันธมิตรของยูเครนก็ได้วิพากษ์วิจารณ์สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่ตรัสว่า ยูเครนควรยืดอกและมีความกล้าหาญในการเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย ซึ่งเป็นถ้อยแถลงที่หลายฝ่ายชี้ว่าเป็นการเรียกร้องให้ยูเครนยอมแพ้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศโปแลนด์ซึ่งเป็นพันธมิตรรายสำคัญของยูเครน และเอกอัครราชทูตยูเครนประจำวาติกัน ต่างใช้การเปรียบเทียบกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อประณามคำกล่าวของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
นอกจากนี้แล้ว หนึ่งในประมุขคริสตจักรในยูเครนออกมากล่าวว่า ที่ผ่านมานั้น การสังหารหมู่ยังไม่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะยูเครนยังคงยึดมั่นในการต่อต้านรัสเซียอย่างไม่ย่อท้อ