ทางการจีนได้เตือนฟิลิปปินส์ให้ระมัดระวังการกระทำ และควรใช้ช่องทางการเจรจา พร้อมกับย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนและฟิลิปปินส์กำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤต เนื่องจากการเผชิญหน้ากันระหว่างหน่วยยามชายฝั่งของทั้งสองฝ่าย อันเนื่องมาจากข้อพิพาททะเลจีนใต้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาเตือนฟิลิปปินส์เป็นครั้งที่ 2 ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน โดยทั้งจีนและฟิลิปปินส์กำลังก็อ้างสิทธิเหนือดินแดนในหมู่เกาะสแปรตลีย์ในภูมิภาคทะเลจีนใต้ โดยเกาะส่วนใหญ่เป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่
นายเฉิน เสี่ยวตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้แสดงความเห็นดังกล่าวระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับนางเทเรซา ลาซาโร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ เพื่อกล่าวถึงความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากการทะเลาะวิวาทกันระหว่างหน่วยยามชายฝั่งของทั้งสองประเทศ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณสันดอนโธมัสที่ 2 (Second Thomas Shoal) ในทะเลจีนใต้
กระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ระบุว่า ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ นางลาซาโรแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำอันอุกอาจของหน่วยยามฝั่งจีนและกองกำลังติดอาวุธทางทะเลในระหว่างปฏิบัติภารกิจในทะเลจีนใต้
ด้านนายเฉินกล่าวว่า "จีนเรียกร้องให้ฟิลิปปินส์เคารพข้อตกลง, ยุติการละเมิดและการยั่วยุทางทะเล, หลีกเลี่ยงการกระทำฝ่ายเดียวที่ทำให้สถานการณ์ยุ่งยากขึ้น และกลับไปสู่แนวทางการแก้ไขความเห็นต่าง ผ่านการพูดคุยอย่างจริงจังและปรึกษาหารือกับจีน"
ฟิลิปปินส์กล่าวหาว่าหน่วยยามชายฝั่งของจีนใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงโจมตีเรือพลเรือนที่กำลังลำเลียงทหารไปยังสันดอนโธมัสที่ 2 เมื่อวันเสาร์ (23 มี.ค.) ส่งผลให้เรือได้รับความเสียหายและลูกเรือบางส่วนได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ได้เรียกอุปทูตของจีนในกรุงมะนิลาเข้าพบเมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) เพื่อประท้วงการกระทำที่ก้าวร้าวหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว