ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต แห่งอินโดนีเซีย สั่งการให้สำนักงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติ (Basarnas) เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือจากเหตุการณ์เรือเฟอร์รี่ข้ามฟาก "ตูนู ปราตามา จายา" (Tunu Pratama Jaya) ล่มลงในช่องแคบบาหลี อันเนื่องมาจากสภาพอากาศเลวร้าย
เท็ดดี อินดรา วีจายา เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแถลงว่า ปธน.ปราโบโวได้สั่งการโดยตรงจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ขณะพำนักเพื่อประกอบพิธีอุมเราะห์และปฏิบัติภารกิจเยือนอย่างเป็นทางการ
"ท่านประธานาธิบดีได้สั่งการจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์มายังสำนักงาน Basarnas และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าช่วยเหลือฉุกเฉินและกู้ภัยผู้โดยสารพร้อมลูกเรือโดยเร็วที่สุด" เท็ดดีกล่าวในวันนี้ (3 ก.ค.)
เท็ดดีกล่าวเสริมว่า ปธน.ปราโบโวได้เน้นย้ำว่า การช่วยชีวิตผู้ประสบภัยคือภารกิจสำคัญอันดับแรกของปฏิบัติการครั้งนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เรือเฟอร์รี่ "ตูนู ปราตามา จายา" ล่มลงเมื่อคืนวันพุธ (2 ก.ค.) ขณะเดินทางจากท่าเรือเกตาปัง บริเวณปลายสุดด้านตะวันออกของเกาะชวา ไปยังท่าเรือกิลิมานุก บนเกาะบาหลี โดยบรรทุกผู้โดยสาร 53 คน ลูกเรือ 12 คน และยานพาหนะอีกนับสิบคัน
เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้แนวพรมแดนทางทะเลระหว่างเกาะบาหลีกับจังหวัดชวาตะวันออก ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยจึงเป็นการระดมกำลังจากทั้งสองพื้นที่ ซึ่งอี โญมัน ซีดาการ์ยา หัวหน้าสำนักงานค้นหาและกู้ภัยบาหลี ได้ยืนยันถึงความร่วมมือดังกล่าว
ทางด้านโธเลบ วาเตเลฮัน เจ้าหน้าที่อาวุโสจากสำนักงานค้นหาและกู้ภัยจังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซียกล่าวว่า สำนักงานค้นหาและกู้ภัยบาญูวางีได้ส่งเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย พร้อมเรือยางท้องแข็งและเรือสนับสนุนอีกหนึ่งลำเข้าร่วมปฏิบัติการ
"กระแสลมพัดแรง คลื่นขนาดใหญ่ และกระแสน้ำเชี่ยวกราก กำลังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อปฏิบัติการช่วยเหลือในขณะนี้" วาเตเลฮันกล่าวเสริม
ล่าสุด นานัง ซีกิต หัวหน้าสำนักงานค้นหาและกู้ภัยเมืองซูราบายา จังหวัดชวาตะวันออกรายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย สูญหาย 30 ราย และรอดชีวิต 31 ราย