โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 550,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นการยุติมาตรการลดการผลิตแบบสมัครใจ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากโอเปกพลัสต้องการทำให้กำลังการผลิตสำรองกลับสู่ภาวะปกติ ท่ามกลางความต้องการน้ำมันทั่วโลกที่ยังคงแข็งแกร่ง
การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. ในการประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 ก.ค.) โดยสมาชิก 8 ประเทศของโอเปกพลัสประกอบด้วย ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต คาซัคสถาน แอลจีเรีย และโอมาน
การเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนส.ค.อยู่ในระดับสูงกว่าที่นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ไว้ และถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค., มิ.ย. และก.ค.ซึ่งโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มในอัตราเท่ากันที่ระดับ 411,000 บาร์เรล/วัน
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า มติการประชุมโอเปกพลัสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทำให้โกลด์แมน แซคส์มีความมั่นใจมากขึ้นว่า โอเปกพลัสกำลังปรับนโยบายที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างสมดุลระยะยาวด้วยการทำให้กำลังการผลิตสำรองและส่วนแบ่งตลาดกลับสู่ภาวะปกติ รักษาความเป็นเอกภาพภายในกลุ่ม และรับมือกับการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ในสหรัฐฯ อย่างมีกลยุทธ์
โกลด์แมน แซคส์คาดว่า กำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสจะเพิ่มขึ้น 1.67 ล้านบาร์เรลต่อวันระหว่างเดือนมี.ค.ถึงก.ย. โดยซาอุดีอาระเบียจะมีส่วนทำให้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 60%
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังมองว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกอาจสูงกว่าที่ประเมินไว้ โดยคาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2568 และ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2569 โดยได้ปัจจัยสนับสนุนมาจากอุปสงค์ในจีนที่ยังแข็งแกร่ง เศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวต่อเนื่อง และแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ