อินโดนีเซียยังคงอยู่ระหว่างเจรจารายละเอียดข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ แม้ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากอินโดนีเซียลงเหลือ 19% จากเดิม 32% โดยอินโดนีเซียกำลังขอข้อยกเว้นภาษีสินค้าส่งออกบางประเภท เช่น น้ำมันปาล์มและนิกเกิล
ซูซีวิโยโน โมเกียร์โซ เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสจากกระทรวงเศรษฐกิจอินโดนีเซีย กล่าวในวันนี้ (18 ก.ค.) ว่า ทั้งสองฝ่ายยังอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขในรายละเอียด พร้อมระบุว่า อัตราภาษี 19% ที่ตกลงกันไว้จะถูกบวกเพิ่มจากอัตราภาษีในแต่ละหมวดสินค้าที่มีอยู่เดิม
โมเกียร์โซระบุว่า อินโดนีเซียได้ยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าหลักอย่างโกโก้ ยางพารา น้ำมันปาล์มดิบ และนิกเกิล ขณะเดียวกัน สินค้าเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ จะได้รับการยกเว้นจากกฎข้อบังคับให้ผู้ผลิตใช้ชิ้นส่วนและวัตถุดิบในประเทศ (local content)
ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ด้วยสัดส่วนมากถึง 85% ของน้ำมันปาล์มนำเข้าทั้งหมดในปี 2567
ในข้อตกลงดังกล่าว อินโดนีเซียยังตกลงที่จะจัดซื้อเครื่องบินจากโบอิ้ง สำหรับใช้ในสายการบินประจำชาติการูด้า อินโดนีเซีย (Garuda Indonesia) รวมถึงให้เปอร์ตามินา (Pertamina) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของอินโดนีเซีย นำเข้าพลังงานจากสหรัฐฯ โดยอยู่ภายใต้การพิจารณาทางธุรกิจเป็นกรณีไป
ทั้งนี้ โมเกียร์โซระบุว่า สินค้าจากสหรัฐฯ ที่นำเข้าอินโดนีเซียจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเนื้อหมู รวมถึงมีการผ่อนปรนข้อกำหนดด้านโควตานำเข้าสำหรับสินค้าบางประเภทด้วย