หลายเมืองในภาคตะวันออกของออสเตรเลียขาวโพลนไปด้วยหิมะที่ตกหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี จากอิทธิพลของสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน รถยนต์จำนวนมากติดค้าง และประชาชนหลายพันครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้
นักอุตุนิยมวิทยาจากสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย เปิดเผยว่า แนวปะทะของมวลอากาศเย็นได้ส่งผลให้เกิดหิมะตกสะสมในบางพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์เมื่อวันเสาร์ (2 ส.ค.) วัดปริมาณได้สูงสุดถึง 40 ซม. ซึ่งถือเป็นปริมาณที่มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 2520
นอกจากนี้ หิมะยังตกในพื้นที่ของรัฐควีนส์แลนด์ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
นักอุตุฯ ให้ความเห็นว่า แม้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้สภาพอากาศของออสเตรเลียผันผวนรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็เคยมีบันทึกไว้ในอดีตเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ผิดปกติตรงที่ปริมาณหิมะที่ตกหนักมาก รวมถึงการที่หิมะตกเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของที่ราบสูงทางตอนเหนือ
ด้านหน่วยบริการฉุกเฉินแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์เปิดเผยว่า ได้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือแล้วกว่า 1,455 ครั้ง โดยมีรายงานรถยนต์กว่า 100 คันติดอยู่ท่ามกลางหิมะ ขณะที่พายุสร้างความเสียหายให้อาคารบ้านเรือน และมีการประกาศเตือนภัยน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่
สถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลียรายงานว่า ประชาชนนับหมื่นครัวเรือนต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีไฟฟ้าตลอดคืน
ตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ ระบุว่า เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ ได้เกิดเหตุรถยนต์คันหนึ่งติดค้างอยู่กลางกระแสน้ำหลาก ส่งผลให้ผู้โดยสารหญิงวัยประมาณ 20 ปีถูกกระแสน้ำพัดพาไป โดยเจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังค้นหาอย่างต่อเนื่องในวันอาทิตย์ (3 ส.ค.)