ธนาคารใหญ่ในสหรัฐฯ โดนฟ้องสมคบคิดกำหนดดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดีนานกว่า 30 ปี

ข่าวต่างประเทศ Saturday October 18, 2025 14:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase), แบงก์ ออฟ อเมริกา (Bank of America), เวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) และธนาคารรายใหญ่แห่งอื่น ๆ กำลังเผชิญคดีฟ้องแบบกลุ่มที่กล่าวหาว่า พวกเขาเข้าร่วมสมคบคิดเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของสหรัฐฯ (U.S. prime interest rate) มานานกว่า 30 ปี ส่งผลให้ผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็กต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงเกินจริง

คดีฟ้องดังกล่าวถูกยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางในรัฐคอนเนตทิคัตเมื่อวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ระบุว่าธนาคารใหญ่ 8 แห่งประสานงานกันตั้งแต่ปี 2537 เพื่อให้ดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีตรงกับอัตรามาตรฐานที่ตีพิมพ์โดยเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล (The Wall Street Journal) หรือ WSJ Prime Rate ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (federal funds rate) อยู่ 3%

อัตราดอกเบี้ย WSJ Prime Rate ถูกใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงสำหรับสินเชื่อผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็กมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ รวมถึงบัตรเครดิตและวงเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ผู้ฟ้องสองรายซึ่งเป็นตัวแทนผู้ยื่นฟ้องแบบกลุ่มซึ่งคาดว่าเป็นผู้กู้หลายแสนคนทั่วประเทศอ้างว่า พวกเขาต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงเกินจริงสำหรับสินเชื่อที่อิงกับอัตรา WSJ Prime Rate โดยคำฟ้องระบุว่าประมาณ 70% ของสินเชื่อผู้บริโภคที่มีมูลค่าน้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์ อิงกับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว

แพทริค แม็กกาฮาน ทนายความของฝ่ายโจทก์ระบุว่า การสมคบคิดนี้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคหลายล้านคนที่ทำงานหนักเพื่อไล่ตามความฝันแบบอเมริกันทั้งการเป็นเจ้าของบ้านและขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ