ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ประกาศภาวะฉุกเฉินในวันนี้ (6 พ.ย.) หลังพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี (Kalmaegi) พัดถล่มพื้นที่ตอนกลางของประเทศ สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายรวมกันอย่างน้อย 241 ราย
ในระหว่างการประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านการจัดการภัยพิบัติเพื่อประเมินสถานการณ์หลังพายุ มาร์กอสได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อให้รัฐบาลสามารถจัดสรรงบประมาณฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว พร้อมออกมาตรการควบคุมการกักตุนสินค้าและการขึ้นราคาสินค้าในพื้นที่ประสบภัย
รายงานระบุว่า พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 114 ราย ส่วนใหญ่มาจากเหตุน้ำท่วมฉับพลัน และมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 127 ราย โดยส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดเซบูและเกาะเนกรอส
ภัยพิบัติครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนเกือบ 2 ล้านคน โดยประชาชนกว่า 560,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ และในจำนวนนี้เกือบ 450,000 คนถูกอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว
ทั้งนี้ พายุคัลแมกีเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 20 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ และนับเป็นภัยธรรมชาติที่รุนแรงที่สุดของประเทศในปีนี้